นครพนม – เจ้าของบ้านสุดทนกับข้าวหายทุกวัน ซ่อนตัวในบ้าน จับโจรสาวหิวโซแอบปีนเข้าบ้านหาข้าวกิน รับสารภาพทนหิวไม่ไหวจึงตระเวนก่อเหตุ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 27 ตุลาคม 2565 นายจำนงค์ อ่อนพินา กำนัน ตำบลนาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากนายไพโรจน์ แขกวงษ์ ราษฎรบ้านดอนยานาง ต.นาทราย ว่ามีคนร้ายแอบปีนหน้าต่างเข้ามาภายในบ้านของตน และสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ ที่บ้านเลขที่ 185/1 บ้านดอนยานาง ต.นาทราย อ.เมืองจังหวัดนครพนม จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองออกตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีพร้อมแจ้ง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมือง นครพนมร่วมทำการตรวจสอบด้วย
ที่เกิดเหตุพบนายไพโรจน์ แขกวงษ์ เจ้าของบ้านกำลังคุมตัวนางสาวน้ำฝน วงศ์กาฬสินธ์ อายุ 27 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 1 ต.วังไก่เถื่อน อ.หันคา จ.ชัยนาท โดยนายไพโรจน์ เปิดเผยว่าสองวันก่อนตนพบว่ามีคนแอบเข้ามาในบ้านขณะที่ตนและภรรยาออกไปทำงานนอกบ้านในเวลากลางวัน โดยพบว่าอาหารที่เตรียมไว้สำหรับมื้อเย็นจำนวนหนึ่งหายไป แต่ตนก็ไม่เอะใจยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติ และก่อนออกจากบ้านก็ได้ล็อคประตูและใส่กลอนหน้าต่างอย่างแน่นหนาทุกบาน ต่อมาวันรุ่งขึ้นหลังกลับจากทำงานก็พบว่าช่องลมที่เป็นแผ่นกระเบื้องถูกทุบเป็นช่องพอที่คนจะลอดเข้ามาได้ และเมื่อสำรวจทรัพย์สินภายในบ้านก็ไม่พบว่ามีอะไรหายไป พบแต่เพียงอาหารเหลือในหม้อที่ทานเหลือในตอนเช้าและจะเก็บไว้ ทานต่อตอนเย็นหายไปจนหมดเกลี้ยง ตนจึงมั่นใจว่าจะต้องมีคนแอบเข้าบ้านขณะที่ตนและภรรยาไม่อยู่อย่างแน่นอน จึงวางแผนกับภรรยาว่าจะจับโจรรายนี้ให้ได้ โดยให้ภรรยาออกไปทำงานตามปกติ ส่วนตนแอบอยู่ในบ้าน โดยใส่กุญแจล็อคประตูหน้าบ้านแล้วตนเองก็แอบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านโดยไม่ใส่กลอนหน้าต่างไว้หนึ่งบ้าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 08.00 น.ขณะที่ตนกำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่ภายในบ้านก็ได้ยินเสียงเปิดหน้าต่างด้านหลังบ้าน และเมื่อตนเงยหน้าขึ้นก็พบกับนางสาวน้ำฝน ปีนหน้าต่างเข้ามาภายในบ้านของตนแล้ว และกำลังมุ่งหน้าเข้ามาในครัวจุดที่ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่พอดี ตนจึงร้องให้หยุดและควบคุมตัวนางสาวน้ำฝนไว้ และแจ้งเหตุให้กำนันจำนงค์ ทราบทันที
ส่วนนางสาวน้ำฝน เปิดเผยว่า สาเหตุที่บุกเข้ามาในบ้านของนายไพโรจน์ ติดต่อกันถึงสามวันติดกัน เนื่องจากตนไม่มีที่ไป ไม่มีงานทำและไม่มีเงินซื้ออาหารการกิน สองวันก่อนมาแล้วมีข้าวปลาอาหารให้กิน จึงย่ามใจวันนี้จึงมาอีกแต่ก็ถูกจับได้เสียก่อน
ด้านนายอนุชา วรัญญูสุธน สารวัตรกำนัน ตำบลนาทราย และนายกสมาคมกูภัยศรีสัตต นครพนมเปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุตนพร้อมด้วยนานจำนงค์ อ่อนพินา กำนันตำบลนาทราย ก็รีบรุดมาที่เกิดเหตุเมื่อพบคนร้ายเห็นคนร้ายก็ทราบทันที่ว่า เป็นบุคคลเดียวกันกับที่ตระเวนลักทรัพย์ชาวบ้านหลายหมู่บ้านในตำบลนาทราย โดยก่อนหน้านี้นางสาว นำฝน ได้ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ ของชาวบ้านและกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเอาไว้ได้ จนพลเมืองดีพบเห็นขณะกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ของกลางในหมู่บ้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุจึงควบคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครพนมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายไปแล้ว หลังจากนั้น ก็ได้ประกันตัวออกมาตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ของชาวบ้านอีกโดยได้รับแจ้งจากชาวบ้านเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมว่าพบผู้ต้องสงสัยที่ตระเวนขโมยกระเป๋าตังค์และโทรศัพท์มือมือของชาวบ้าน ตนก็และกำนัน ก็ทำการควบคุมตัวส่งร้อยเวร สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีแล้ว แต่ก็ถูกปล่อยตัวออกมาตระเวนก่อเหตุในวันนี้อีก โดยนางสาวน้ำฝนแต่เดิมอาอาศัยอยู่กับแม่ที่กระท่อมท้ายหมู่บ้าน และเคยมีสามีและลูกหนึ่งคน แต่สามีเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อประมาณ สองเดือนที่ผ่านมา หลังจากนั้นแม่ก็ย้ายครอบครัวกลับไปอยู่บ้านเดิมที่จังหวัดชัยนาท ทิ้งนางสาวน้ำฝนให้อยู่ที่นี่ตามลำพัง ด้วยพฤติกรรมส่วนตัวของนางสาวน้ำฝน มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไปไหนมาไหนชาวบ้านจึงไม่ค่อยต้อนรับ จึงต้องอยู่ตามลำพังท้ายหมู่บ้านและติดยาบ้างอมแงม ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง เที่ยวตระเวนลักเล็กขโมยน้อย เอาทรัพย์สินไปขายเพื่อเอาเงินมาซื้อยาบ้าเสพ จึงอยากขอวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหาทางช่วยเหลือ ด้วยเพื่อไม่ให้สร้างปัญหาให้สังคมอีกต่อไป
