พ่อเมืองนครพนม พร้อมเหล่ากาชาดลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยจากเหตุไฟไหม้บ่อขยะในพื้นที่ตำบลโพธิ์ตาก
วันที่ 30 ธันวาคม 2565 ที่จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมคณะเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย 4 ราย ที่ได้มีการสูดดมควันพิษเข้าไปแล้วมีอาการไอและแสบคอ จากสถานการณ์เพลิงไหม้บ่อขยะของเทศบาลเมืองนครพนม เนื้อที่ 77 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านสุขเกษม หมู่ที่ 8 ตำบลโพธิ์ตาก อำเภอเมืองนครพนม ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ซึ่งมีปริมาณขยะที่ฝังกลบสะสม ประมาณ 100,000 ตัน โดยได้เกิดกลุ่มควันแพร่กระจายออกไปประมาณ 5 กิโลเมตรทางด้านทิศตะวันตกครอบคลุมพื้นที่ 10 หมู่บ้าน
ทั้งนี้ระหว่างเกิดเหตุจังหวัดนครพนมได้มีการบูรณาการหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ ซึ่งประกอบไปด้วย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม เทศบาลเมืองนครพนม เทศบาลตำบลหนองญาติ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) และองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ตาก องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านผึ้ง องค์การบริการส่วนตำบลนาทราย ร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 7 สกลนคร นำกำลังพล และรถ Ex-Cavator รถแบล็คโฮลเข้าทำการขุดกองขยะเพื่อทำการเคลียร์พื้นที่ จากนั้นใช้รถดับเพลิงและหุ่นยนต์ดับเพลิงระยะไกลแรงดันสูง LuF-120 รถฉีดน้ำแรงดันสูง ทำการฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงที่ไหม้อยู่ พร้อมทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยตลอดเวลามีรถไฟฟ้าส่องสว่างและอากาศยานไร้คนขับคอยสนับสนุนและสังเกตการณ์พร้อมประเมินสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน โดยวันที่ 27 ธันวาคม 2565 สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 9 อุดรธานี ได้ทำการตรวจวัดคุณภาพอากาศ จำนวน 3 จุด บริเวณกองอำนวยการในพื้นที่ดับเพลิงและหมู่บ้านหนองค้า หมู่ที่ 5 พบว่ามีค่าคาร์บอนมอนออกไซด์ในบริเวณบ่อขยะที่กำลังเผาไหม้ ระหว่าง 3 – 5 ppm ส่วนกองอำนวยการและหมู่บ้านหนองค้า หมู่ที่ 5 ไม่พบค่าคาร์บอนมอนออกไซด์ และไม่พบน้ำเสียที่เกิดจากการดับเพลิงรั่วไหลออกสู่พื้นที่ภายนอกแต่อย่างใด และในวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ได้มีการดำเนินการตรวจวัดมลพิษประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ในพื้นที่หมู่บ้านทุกหมู่บ้านที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ และเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว เนื่องจากสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว ส่วนผู้ที่สูดดมควันพิษเข้าไปและมีอาการข้างเคียงปัจจุบันแพทย์ได้ทำการรักษาพร้อมให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวจนทำให้ทุกคนอาการใกล้เคียงกับปกติแล้ว
