วันที่ 3 มกราคม 2566 ที่ห้องประชุมพระธาตุท่าอุเทน ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) พลตำรวจตรี ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นำคณะทำงานประจำศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 จังหวัดนครพนม ร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์กับคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี ส่วนกลาง กระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือแนวทางในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาในพื้นที่ ก่อนที่จะประชุมร่วมกับแต่ละอำเภอ เพื่อถอดบทเรียนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในพื้นจังหวัดนครพนม ซึ่งในวันที่ 2 มกราคม 2566 มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จากอุบัติอำเภอนาแก เพื่อวางแผนปรับการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทำให้ผู้ที่สัญจรไปมามีความปลอดภัยสูงสุด
โดยเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 1 รายในครั้งนี้ เป็นคนแก่อายุ 82 ปี ที่จะเดินข้ามถนน ในช่วงเลา 16.00 น. แต่ถูกรถตู้โดยสารไม่ประจำทางชนเสียชีวิต บริเวณบ้านสีชมพู่ หมู่ 2 ตำบลสีชมพู่ อำเภอนาแก ซึ่งในการถอดบทเรียนพบว่า บริเวณเกิดเหตุเป็นถนนทางเรียบลาดยางที่รถสามารถทำความเร็วได้ ทั้งยังใกล้กับที่มีการตั้งด่าน แม้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ประจำด่านจะมีการร้องห้ามไม่ให้ผู้เสียชีวิตข้ามถนนแต่ก็ไม่ทัน ดังนั้นในจุดนี้ที่ประชุมเห็นควรให้ทุกจุดทำการตรวจสอบระยะการติดป้ายแจ้งเตือนและสัญลักษณ์อื่น ๆ ให้ผู้ขับขี่มองเห็นในระยะที่ไกลเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการแจ้งเตือนให้ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น ส่วนรถตู้โดยสารไม่ประจำทางที่ทางขนส่งจังหวัดนครพนมรายงาน แจ้งว่าตามระเบียบการขออนุญาตประกอบการจะต้องมีการติดตั้งระบบ GPS ทุกคัน โดยรถคันดังกล่าวได้มีการติดตั้งเรียบร้อยในตอนขออนุญาต แต่เมื่อเกิดอบัติเหตุพบว่าไม่มีสัญญาณในการขับขี่ ดังนั้นจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถือเป็นการประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท ขณะที่ผู้ขับขี่รถตู้โดยสารไม่ประจำทางเป็นตัวผู้ขออนุญาตประกอบการเอง และไม่ได้ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จึงเป็นความประมาทโดยการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งในส่วนนี้พนักงานสอบสวนจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ และหลังจากนี้ทางขนส่งจังหวัดนครพนมจะมีการเข้มงวดกวดขันกับผู้ประกอบการทุกรายให้มากยิ่งขึ้นในการที่จะขอต่อใบอนุญาตประกอบการ เพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมทั้งได้ฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชนที่จะใช้รถสาธารณะขอให้เลือกใช้บริการรถที่ถูกกฎหมาย ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองกรณีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และหากพบปัญหา โดนเอารัดเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ สามารถรแจ้งได้ที่โทรสายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: