วันที่ 4 มกราคม 2566 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวง กรม และจังหวัด เพื่อสร้างความเข้าใจกับคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ ในระดับอำเภอ ตำบล รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พร้อมมอบแนวทางการปฏิบัติราชการที่ผู้นำต้องทำก่อน เพื่อเป็นต้นแบบให้กับประชาชนในทุก ๆ เรื่อง โดยในโอกาสนี้ได้ร่วมกับนายอำเภอสร้างพื้นที่ในบ้านพักให้มีแหล่งอาหารเป็นต้นแบบให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เห็นและนำไปปฏิบัติตามกับกิจกรรมบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้เดินทางมาปฏิบัติราชการที่จังหวัดนครพนมครบ 1 เดือน พอดี ซึ่งตนเองมีนโยบายที่จะร่วมกับทุกภาคส่วนขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาจังหวัดให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ทำให้ชาวนครพนมทุกคนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กับ 4 แนวนโยบาย คือ หน้าบ้านน่ามองนครพนมน่าอยู่ การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี การปฏิบัติราชการที่ถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม และการยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ภายใต้ สโลแกนที่ว่าผู้นำต้องทำก่อน ซึ่งในวันนี้ที่ได้น้อมนำพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาดำเนินการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ประชาชนในพื้นที่ได้เห็น กับกิจกรรมบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง ซึ่งถ้าประชาชนทุกคนทำตามจะเกิดประโยชน์อย่างมาก เพราะจะมีแหล่งอาหารที่ปลอดภัยไร้สารพิษ ทำให้สุขภาพดี ส่วนการทำก็เริ่มง่าย ๆ จากการปลูกพืชที่อยากรับประทานอย่างละเล็กละน้อย ซึ่งวิธีการปลูกทุกคนก็ต้องเข้าใจเกี่ยวกับดินด้วยว่าเป็นอย่างไร มีแร่ธาตุไหมก็หาอินทรียวัตถุมาปรับปรุงบำรุงดินให้สมบูรณ์ ซึ่งตัวนี้เราจะได้มาจากการทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนที่แต่ละวันเรามีการคัดแยกขยะ นำเศษอาหารมาหมักก็จะกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพชั้นดี ส่วนการปลูกก็ควรมีการห่มดินหรือคลุมดินที่ให้ทั้งความชุ่มชื้นของดินและการเป็นธาตุอาหารให้พืช โดยใช้ฟาง เศษหญ้า หรือใบไม้ ที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติปกคลุมตรงที่เราปลูกพืช และนำปุ๋ยหมักอินทรีย์ชีวภาพที่มีมาลงใส่ ที่เหลือก็รดน้ำ พรวนดินในแต่ละวัน ที่เป็นเหมือนการออกกำลังกายพร้อมกับการชื่นชมการเจริญเติบโตของพืชผักที่เราปลูก เพียงเท่านี้เราก็มีแหล่งอาหารดี ๆ เป็นของตนเองไว้รับประทานแล้ว ยิ่งถ้าทุกคนทำในลักษณะที่คล้ายกันแต่ปลูกคนละอย่างก็สามารถแลกเปลี่ยนกันทานได้ กลายเป็นแหล่งอาหารขนาดใหญ่ของชุมชน เมื่อมีเหลือก็สามารถจำหน่ายเป็นรายได้เพิ่มเติมได้อีก
ข่าวน่าสนใจ:
- WDC เสริมกำลังตลาดภาคใต้ ทุ่มงบ 20 ล้านบาท ขยายโชว์รูมแห่งที่ 9 จ.สุราษฎร์ธานี ลุยสินค้ารักษ์โลก พร้อมเปิดตัว Friends of Brand ปี 2568
- กกต.อบจ.เพชรบูรณ์ สั่งเช็กเอกสารคล้ายประกาศรับรองผู้สมัครฯ หลุด หลัง"ลุงโทนี"โพสต์โชว์ก่อนลบทิ้ง
- ชาวบ้านร้อง พบหญิงนั่งปลดทุกข์หน้าบ้านคนอื่น ไม่อายกล้องวงจรปิด
- กล้องวงจรปิดจับภาพ แม่รับลูกซ้อน 4 กลับจากโรงเรียน ชนรถ พ่วงบาดเจ็บสาหัส ลูกร้องระงม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: