นครพนม ตำรวจรวบคาบ้าน หนุ่ม อายุ 57 ปีทุบหัวเมียชาวบ้านดับ อ้างโมโห ที่ไม่ให้กอด หลังแอบหลงรักมานาน
เวลา 13.00 น. วันที่ 12 ม.ค.66 พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก. พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม พ.ต.ท.อักขราธรณ์ ดอนสถิตย์ รักษาการแทนผกก. สภ.วังยางคุมตัวนายนิมิตร หนึ่งคำมี อายุ 57 ปี ผู้ต้องตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา หลังก่อเหตุใช้ของแข็งทุบตี น.ส.นฤมล วงค์ธี อายุ 40 ปี เสียชีวิตมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ
โดนจุดแรกนายนิมิตร ผู้ต้องหา จอดรถจักรยานและโทรศัพท์หา น.ส.นฤมล ห่างบ้านผู้ตาย 50 เมตร หบังจากนั้นไปจุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่รัดนัดพบกันหลังบ้านกับผู้ตาย ก่อนใช้ไม้ไผ่ฟาดที่ศีรษะ จุด 3 เป็นจุดทิ้งไม้ไผ่ที่ใข้ก่อเหตุ ก่อนเหยียบน้ำในสระล้างคราบเลือด จุดที่ 4 นำโทรศัพท์ไปทิ้งสระน้ำที่อยู่เยื้องบ้านพักผู้ก่อเหตุ 20 เมตร ห่างบ้านผู้ตาย 2 กิโลเมตร จุดที่ 5 บ้านผู้ต้องนำเสื้อและกางเกงเปื้อนเลือดผู้ก่อเหตุใส่เครื่องซักผ้าในห้องน้ำที่อยู่ใต้ถุนบ้าน จุดที่ 6 นำย่ามที่ซุกใส่ไม้ไผ่ที่ใช้ก่อเหตุไปห้อยไว้ข้างห้องน้ำ และนำรองเท้าบู๊ทถอดไว้ใต้แคร่ โดยใช้เวลาแผน ประมาณ 30 นาที ขณะที่ชาวบ้านแห่ไปมุงดูการทำแผนร่วม 100 คน โดยมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 คน คุมเข้มทำแผนหวั่นถูกรุมประชาทัณฑ์
ข่าวน่าสนใจ:
- โหดเหี้ยม!หนุ่มถูกมีดฟันยับดับกลางถนน คาดทะเลาะในวงเหล้า
- สงขลา ไม่ทันลืมตาดูโลก! พบศพทารกเพศชายยัดถุงดำ ถูกทิ้งถังขยะ ย่านเมืองท่องเที่ยว
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
คดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 10 ม.ค.65 ร.ต.อ.ชาลี เชื้อกุลา รอง สว.(สอบสวน) สภ.วังยาง รับแจ้งพบศพหญิงเสียชีวิต ริมถนนทางไปทุ่งนา บ.นาขาม หมู่4 ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม จึงไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อม แพทย์เวร รพ.วังยาง เจ้าหน้าที่ พฐ.ภ.จว.นครพนม รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาวทราบชื่อคือ น.ส.นฤมล วงค์ธี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 บ.นาขาม หมู่ 4 ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม สภาพศพสวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีแดง นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต มีบาดแผลถูกทุบตีที่ศีรษะ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ท้ายทอย 3 แห่ง ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วง 6 โมงเย็น น.ส.นฤมล ผู้ตายอยู่บ้านกับลูกสาว ได้มีผู้ชายโทรศัพท์มาหาผู้ตาย หลังจากที่ น.ส.นฤมล รับสายและเดินออกจากบ้านไปริมถนนจุดเกิดเหตุ กระทั่งช่วง 3 ทุ่มลูกวัย 12 ขวบได้ยินเสียงคล้ายคนตีกัน ก่อนเสียงเงียบหายไป ด้วยความตกใจจึงไม่กล้าออกมาดู กระทั่งรุ่งเช้ามีเพื่อนบ้านมาพบศพ จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า น.ส.นฤมล ผู้ตายและนายนิมิตร คบหามีความสนิทสนมกัน แนวทางการสืบสวนจึงพุ่งเป้าไปที่คนใกล้ชิดอาจเป็นเรื่องชู้สาว เนื่องจากสามีผู้ตายไปทำงานที่กรุงเทพฯนานกว่า 1 ปีและไม่กลับมาบ้าน กระทั่งสืบจนพบว่านายนิมิตร ผู้ก่อเหตุไปติดพันกับผู้ตาย
เจ้าหน้าที่ยังเช็กข้อมูลเชิงลึกในทางลับ จนทราบว่าช่วง 2 ทุ่มวันเกิดเหตุนายนิมิตร ผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์หาผู้ตาย 3-4 ครั้ง แต่ น.ส.นฤมล ไม่รับสายเนื่องจากติดสายกับสามี กระทั่งช่วง 3 ทุ่มผู้ก่อเหตุได้โทรแชทหาผู้ตาย 3-4 ครั้งจึงยอมออกจากบ้านมาพบ
ขณะที่นายนิมิตรลวนลามผู้ตาย น.ส.นฤมลจึงขู่ว่าจะไปฟ้องภรรยา นายมิตร ผู้ก่อเหตุจึงโมโหเพราะถูกด่าและต่อว่า เนื่องจากหมดเงินไปเยอะแล้ว จึงคว้าท่อนไม้ไผ่ยาว 60 ซ.ม.ฟาด 3 ครั้ง จนผู้ตายแน่นิ่งก่อนตนเองจะหนีกลับไปนอนที่บ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สอบสวนนายนิมิต ผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นรับสารภาพว่า มาติดพันผู้ตายได้ระยะหนึ่งแล้ว ก่อนเกิดเหตุได้โทรเรียกผู้ตายมาพบจริงเพื่อเคลียร์ใจ อ้างว่าผู้ตายมีหนุ่มมาติดพันหลายคน ก่อนจะ ลวนลาม น.ส.นฤมล ผู้ตายจึงขัดขืนและขู่ว่าจะไปฟ้องภรรยา
นายนิมิตร กล่าวอ้างว่า ด้วยความโมโหหลังถูกฝ่ายหญิงด่าทอ อีกทั้งผู้ตายชอบมาขอเงินใช้หลายครั้งแล้ว ด้วยอารมณ์ชั่ววูบและเกิดหึงหวง จึงคว้าท่อนไม้ไผ่ยาว 60 ซ.ม.ฟาด 3 ครั้ง จนผู้ตายแน่นิ่งก่อนจะหนีกลับไปนอนที่บ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม้ไผ่ที่ใช้ก่อเหตุได้นำไปโยนทิ้งสระน้ำใกล้จุดเกิด 50 เมตร ส่วนโทรศัพท์ผู้ตายที่ตกในที่เกิดเหตุนำไปโยนทิ้งหลังบ้านผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงไปงมมาเพื่อใช้ประกอบเป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.ฉกาจน์ กล่าวว่า ประเด็นน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว หลังตรวจสอบจากแมสเซนเจอร์โทรศัพท์ของลูกสาววัย 12 ขวบ โดยนำอีเมล์ของลูกไปล็อกอินเข้ารหัส คาดว่าการเข้ารหัสอีเมล์ของผู้ตายกับลูกสาว น่าจะใช้จีเมล์อันเดียวกัน ปรากฏว่าจริงผู้ตายใช้เมล์เดียวกัน หลังจากเข้าไปตรวจสอบในเฟซบุ๊คผู้ตายไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่หลังจากตรวจสอบทางแมสเซนเจอร์ที่พ่วงกับเฟซบุ๊ค จึงทราบว่าเวลาประมาณ 6 โมงวันเกิดเหตุถึงทุ่มเศษ ผู้ตายได้โทรศัพท์คุยกับนายชัยทอง อ่อนศรี อายุ 46 ปี สามีทำงานเป็น รปภ.บริษัทแห่งหนึ่งที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังผู้ตายวางสายกับสามี ก็มีโทรศัพท์ผู้ต้องสงสัยทราบชื่อว่านายนิมิตร ผู้ก่อเหตุได้โทรย้ำถึงผู้ตาย 3-4 ครั้งแต่ไม่รับสาย ครั้งสุดท้ายผู้ตายรับสายมีการพูดคุยกัน 20 วินาที
เจ้าหน้าที่จึงสงสัยนำไปสู่การสืบสวนหาตัวคนร้าย จนทราบว่านายนิมิตร มีบ้านอยู่ห่างบ้านผู้ตายราว 2 กิโลเมตร จึงไปเชิญตัวมาสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ จึงขอโทรศัพท์นายนิมิตรไปตรวจสอบแมสเซนเจอร์พบว่ามีการถูกลบข้อความที่พูดคุยกับผู้ตาย จึงกู้ข้อมูลและพบว่ามีการพูดคุยกันจริง จึงนำตัวมาสอบปากคำ ก่อนขออนุมัติหมายศาลเข้าจับกุมได้ที่บ้านพัก
นางอุไร ลิบน อายุ 57 ปี ป้าผู้ตายกล่าวว่า นิสัยผู้ตายร่าเริงเข้ากับคนง่าย ทีแรกไม่อยากจะเชื่อว่านายนิมิตรคือฆาตกร กระทั่งตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำ จนนายนิมิตรรับสารภาพคือผู้ก่อเหตุ หลังเกิดเหตุแค่ 1 วัน นายนิมิตรยังไปช่วยกางเต็นท์ ซื้อกาแฟและนำข้าวสาร 1 กระสอบไปช่วยงานศพเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอให้ผู้ก่อเหตุถูกลงโทษตามกรรมที่ก่อไว้
นายชัยทอง อ่อนศรี อายุ 46 ปี สามีผู้ตาย กล่าว ว่าตนไปทำงานเป็น รปภ.ที่ จ.สมุทรปราการ นาน 4 ปี จะกลับมาบ้านแค่ปีละครั้ง ทุกครั้งจะส่งเงินเดือนให้ทั้งหมด 15,000 บาท แม้จะอยู่ห่างกันตนและภรรยาจะโทรแชทหากัน 3-4 ครั้งต่อวัน ส่วนใหญ่จะถามเรื่องลูก คนที่ฆ่าเมียภรรยาจะเรียกลุงมิตรทุกครั้ง และจะจ้างมาตัดหญ้าที่บ้านเสมอมา ทีแรกไม่เชื่อจะเป็นคนร้าย กระทั่งตำรวจจับกุม
เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา คุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังยาง ดำเนินคดีต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: