นครพนม – เจ้าอาวาสวัดดังแจง ป้ายห้ามเข้าวัดติดไว้เพื่อเตือนสติคนดี ถ้าคนไม่ดีอยากเข้าก็ไม่อาจห้ามได้ ขณะที่ชาวบ้านหันหลังให้วัดปล่อยให้อุโบสถถูกปล่อยทิ้งร้าง
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ค PEAK ASTAR โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายป้ายติดประตูทางเข้าวัดเวินพระบาทภูกระแต บ้านนาราชควาย หมู่ 11 ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม ว่า
“ ถอยดีกว่า …จะไปทำบุญ…แต่เจอแบบนี้…ไปบ่อเป็น” พร้อมโพสรูปถ่ายข้อความ “ประตูยังไม่เปิด ห้ามเข้าโดยเด็ดขาด ฝ่าฝืนจะถือว่าบุกรุก” พร้อมป้าย “วัดไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวทัศนาจร แต่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้ใฝ่ศีลไฝ่ธรรม “ ประกอบกับภาพป้ายชื่อวัดและป้ายแนะนำว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้เกิดกระแสวิพากวิจารณ์ในสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนมคึกคัก! เปิดศึกเลือกตั้ง อบจ. วันแรก “ศุภพานี-ประสงค์” ชิงชัย พร้อมนโยบายพัฒนาท้องถิ่น
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- ตำรวจนครพนมทลายขบวนการค้ายาเสพติด ยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ด ไอซ์ 46 กก. ผู้ต้องหา 4 ราย รับจ้างข้ามชาติ
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางที่วัดเวินพระบาทภูกระแตซึ่งตั้งอยู่บนเนินภูกระแต่ระหว่างบ้านนาสมดี กับบ้านนาราชควาย หมู่ 11 ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม มีสภาพเป็นวัดป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ สองร้อยกว่าไร่ โดยมีพระเฉลิมศักดิ์ ธัมเทโป เป็นเจ้าอาวาส จำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว โดยสภาพทั่วไปตัวอุโบสถถูกปล่อยทิ้งร้างเป็นเวลานานจนถูกปลวกกัดแทะประตูทางเข้าจนผุพังเสียหายภายมนอุโบสถมีเพียงองค์พระประธานที่ยังหลงเหลืออยู่เท่านั้นพื้นที่รอบๆบริเวณถูกปล่อยทิ้งร้างไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานจนผุพังไปหมด และเมื่อเข้าไปในวัดก็ได้พบกับพระเฉลิมศักดิ์ ธัมเทโป เจ้าอาวาสวัดเวินพระบาทภูกระแต และได้สอบถามถึงที่มาที่ไปของป้ายห้ามบริเวณทางเข้าวัดดังกล่าวข้างต้น โดยพระเฉลิมศักดิ์ เปิดเผยว่าตนเป็นผู้สั่งการให้ทำป้ายดังกล่าวจริงและให้นำมาติดไว้ตรงประตูทางเข้าวัดทั้งนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้มักจะมีคนเข้าออกวัดโดยพละการโดยไม่ทราบใครเป็นใคร ซึ่งกรณีที่มีคนโพสต์รูปดังกล่าวตนได้แจ้งแก่พระเลขาของเจ้าคณะตำบลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นที่มีคนไปโพสต์ เรื่องนี้นั้นตนเข้าใจว่าผู้โพสต์คงจะเดินทางมาถึงที่วัดก่อนที่ตนจะกลับจากออกไปบิณฑบาตร ผู้โพสต์จึงถ่ายภาพแล้วนำไปโพสต์ ซึ่งโดยปกติถามว่าการที่วัดทำประตูเปิดปิดแบบนี้มันผิดตรงไหน การที่เขียนป้ายดังกล่าวติดไว้เพื่อต้องการเตือนสติคนดีถ้าคนที่ไม่ดีหรือไม่มีสติเขาก็เข้ามาเองมันมีอยู่แค่นั้น ป้ายที่ติดไว้ก็เพียงเพื่อเตือนเผื่อจะมีสติยั้งคิดบ้างเพราะมันกันอะไรไม่ได้อยู่แล้วเพราะขอบเขตวัดกว้างใหญ่มีเนื้อที่ถึงสองร้อยสี่ไร่ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความสบายใจของญาติโยม ตนเอาป้ายออกก็ได้ไม่มีปัญหาเพราะมันกันอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ตนถือว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปได้ทำถูกต้องแล้วเป็นการทำตามหน้าที่ทุกอย่างแล้วก็พอ
ด้านนางสาวอรวรรณ นิตยาคม ผู้ใหญ่บ้านบ้านนาสมดี หมู่ 9 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม เปิดเผยว่า พื้นที่วัดเวินพระบาทภูกระแต อยู่ในเขตรับผิดชอบของบ้านนาราชควาย หมู่ 11 ต.นาราชควาย ถึงแม้จะมีอานาเขตติดกับบ้านนาสมดี ก็ตาม เนื่องจากมีการแบ่งเขตรับผิดชอบไปให้หมู่ 11ที่แยกตัวออกจากหมู่ 7 ให้ดูและวัดเวินพระบาทภูกระแตแทนบ้านนาสมดี ซึ่งตั้งแต่ตนเป็นผู้ใหญ่บ้านมาตนก็ไม่เคยขึ้นไปที่วัดนั้นเลย ซึ่งโดยปกติพระที่วัดเวินพระบาทภูกระแตจะออกไปบิณฑบาตที่หมู่บ้านอำพร 2 ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรร อยู่ห่างออกไปทางถนนเลี่ยงเมืองนครพนม ไม่ได้มาบิณฑบาตรที่บ้านนาสมดีเลยถึงแม้จะอยู่ใกล้วัดกว่าก็ตาม ซึ่งชาวบ้านที่ไปที่วัดต่างพูดกันว่าเมื่อชาวบ้านเข้าไปในวัดจะทำอะไรเจ้าอาวาสก็จะห้ามหมดทุกอย่างจึงไม่มีใครอยากเข้าวัดดังกล่าวอีกเลย
นายธานี ดีจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 บ้านนาราชควาย เปิดเผยว่าวัดดังกล่าวอยู่ในเขตรับผิดชอบของชาวบ้านนาราชควายหมู่ 11 จริง โดยก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อนมีเหตุการณ์คนร้ายเข้ามาตัดไม้พยุงต้นขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างกุฎิของเจ้าอาวาสคนก่อน และอีกหลายต้นในบริเวณนั้นจนหมด โดยทางเจ้าอาวาสก็กล่าวหาว่ากรรมการหมู่บ้านไม่มาดูแล ขณะที่ชาวบ้านกลับคิดว่าพระในวัดขายไม้พยุงเหล่านั้นให้กับคนที่มาตัดเนื่องจากจุดที่ตัดอยู่ติดกับกุฏิเจ้าอาวาสแต่ทำไมถึงไม่มีใครรู้ จึงเกิดเป็นประเด็นขัดแย้งระหว่างเจ้าอาวาสวัดกับชาวบ้านตั้งแต่นั้นมา ส่วนเจ้าอาวาสคนปัจจุบัน ชาวบ้านเพิ่งนิมต์มา เมื่อราวๆ ปี 2559 ก็มีปัญหากับชาวบ้านอีกเนื่องจากชาวบ้านจะถูกห้ามไม่ให้เข้ามาหาเก็บของป่าและแหย่ไข่มดแดงภายในบริเวณวัด ซึ่งบริเวณวัดมีเนื้อกว้างใหญ่กว่าสองร้อยไร่และเคยเป็นพื้นที่ป่าชุมชนที่ชาวบ้านมักจะพากันเข้าไปหาเห็ดหาผักป่าและแหย่ไช่มดแดงแต่ภายหลังถูกเจ้าอาวาสวัดห้ามไม่ให้เข้าจึงเกิดความขัดแย้งขึ้น ภายหลังก็ไม่พากันเข้าวัดเข้าวาจนปล่อยให้อุโบสถถูกทิ้งร้างอย่างที่เห็น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: