วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ที่จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม คณะหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ส่งมอบโถชักโครก ตามโครงการโถสุขภัณฑ์ปันสุข ลุกนั่งปลอดภัย ห่วงใยผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโครงการที่จังหวัดนครพนมบูรณาการทุกภาคส่วนจัดขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้สูงอายุที่ยากจนในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ ที่เป็นการเปิดรับบริจาคไปยังผู้มีใจเป็นกุศล ผ่านทางบัญชีเลขที่ 661-9-17572-4 ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี สาธารณกุศล จังหวัดนครพนม โดยให้มีการยืนยันหลักฐานการโอนมายังหมายเลขโทรศัพท์ Line ID : 0854842537 รวมถึงมีการบอกบุญไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการร่วมด้วยช่วยกันจัดหาโถชักโครกมาส่งมอบให้ผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้นำชุมชนและประชาชนจิตอาสาที่มีความสามารถด้านช่าง ได้ช่วยกันเปลี่ยนจากโถนั่งยอง และปรับปรุงพื้นห้องน้ำให้ใหม่ เพื่อทำให้ผู้สูงอายุมีความปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุ ระหว่างลุกนั่งและเวลาทำธุรในห้องน้ำ โดยวันนี้เป็นการลงพื้นที่มอบให้กับผู้สูงอายุ อำเภอท่าอุเทน และอำเภอโพนสวรรค์ เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ที่มีการส่งมอบให้กับผู้สูงอายุ อำเภอวังยาง อำเภอนาหว้า อำเภอนาแก อำเภอธาตุพนม และอำเภอเรณูนคร ทำให้ ณ ปัจจุบันสามารถส่งมอบให้ได้แล้ว 7 อำเภอ ยังคงเหลือ 5 อำเภอ ซึ่งจะมีการทยอยส่งมอบในวันต่อไป
และในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ยังได้พูดถึงการเตรียมแผน 2 สำหรับการส่งมอบความสุขให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการที่ยากไร้ในพื้นที่ ที่ไม่มีที่อยู่อาศัยหรือบ้านเรือนที่อาศัยมีความทรุดโทรม โดยได้มอบหมายให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เร่งสำรวจเพื่อที่จะได้ทำเรื่องเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามพระราชบัญญัติของผู้สูงอายุ 2546 และพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 ที่มีในเรื่องของการซ่อมสร้างบ้าน เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ หลังละไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งในปีงบประมาณนี้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนมได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับผู้สูงอายุมาและมีการดำเนินงานไปแล้ว 50 หลัง แต่ยังเหลืองบประมาณอยู่อีกประมาณ 800,000 บาท ซึ่งจะสามารถดำเนินการซ่อมสร้างบ้านได้ 20 หลัง ส่วนคนพิการรอบแรกจะได้ 50 หลังทั้งจังหวัด ส่วนรอบที่ 2 จะได้เพิ่มอีก 50 หลัง รวมแล้ว 100 หลัง ดังนั้นถ้าสำรวจได้เสร็จเร็วก็จะสามารถดำเนินการพิจารณาได้เร็ว นั้นหมายถึงผู้สูงอายุและผู้พิการในจังหวัดนครพนมจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ซึ่งในการพิจารณาจะแม้นการสำรวจหากพบว่ามีจำนวนมากกว่าจำนวนงบประมาณที่มี ทางจังหวัดนครพนมก็จะเรียงลำดับจากผู้ที่จำเป็นเร่งด่วนที่สุด และเมื่อครบจำนวนที่กำหนดแล้ว จะทำเรื่องเสนอขอในปีงบประมาณต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: