ฝุ่นพิษปกคลุมริมโขงนครพนมเหมือนเมืองในหมอก ขณะทางการออกประกาศเตือนอากาศเป็นพิษควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง
สถานการณ์มลพิษทางอากาศในจังหวัดนครพนม ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤต โดยเฉพาะ พื้นที่อำเภอชายแดนริมแม่น้ำโขงที่มีเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ต่างได้รับผลกระทบจากหมอกควันปกคลุมหนาแน่น จนสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าลอยปกคลุมไปทั่วคุ้งน้ำ
โดยช่วงเช้าวันที่ 8 มีนาคม 2566 จากข้อมูลของแอปพลิเคชั่น Air4thai ที่เป็นแอปสำหรับตรวจวัดคุณภาพของอากาศ ทั่วไปในประเทศไทยที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย อยู่ในขณะนี้ ได้รายงานตัวเลขคุณภาพทางอากาศ พบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงถึง 189 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ(AQI) พบมีค่าสูงถึง 299 อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยตรวจวัดเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 8 มีนาคม 2566
นายสราวุธ สุโพธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากในช่วงนี้มีการเผาตอซังสำหรับเตรียมทำนาของชาวนา โดยเริ่มทยอยเผากันมาเรื่อย ๆตั้งแต่ต้นปีมา ประจวบกับฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็เริ่มมีการเผาพื้นที่การเกษตรเพื่อเตรียมทำนารอบใหม่จึงเกิดกลุ่มควันขึ้นเป็นจำนวนมากในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ริมแม่น้ำโขงที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้ตรวจพบจุดความร้อนเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ โดยเฉพาะฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นมาตรการการป้องกันจึงทำได้ยากเนื่องจากต้นเหตุเกิดฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทางเราจึงไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการหารือกันระหว่างสองประเทศ เพื่อหาทางป้องกันร่วมกันโดยที่ผ่านมาทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เดินทางไปพบปะหารือกับเจ้าแขวงคำม่วนของฝั่งสปป.ลาวในระดับท้องถิ่นมาแล้วโดยบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการป้องกันการเผาพื้นที่การเกษตรของประชาชนทั้งสองประเทศ แต่ก็ยังไม่ได้ผลมากนัก ซึ่งเมื่อต้นเหตุเกิดในประเทศเพื่อนบ้านแล้วส่งผลกระทบมายังฝั่งเราจึงไม่สามารถป้องกันได้ คงทำได้อย่างเดียวคือประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้ทราบว่าขณะนี้ค่า PM 2.5 ของเรามันอยู่ในระดับสูงมากแล้วนะขอให้ทุกคนที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งต้องระมัดระวังหากหลีกเลี่ยงได้ก็ดีหรือไม่ก็ควรงดไปเลยเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของราษฎรโดยได้ออกประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องตามสื่อต่าง ๆ พร้อมแนะนำให้ประชาชนสามารถตรวจเช็คคุณภาพของอากาศรอบๆ ตัวเองได้ตลอดเวลา ผ่านแอป Air4thai ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านชาวบ้านที่ต้องประกอบอาชีพกลางแจ้งก็เริ่มได้รับผลกระทบบ้างแล้วโดยนายชูเกียรติ รอบรู้ อายุ 55 ปี อาชีพขายกาแฟให้นักท่องเที่ยวบริเวณหน้าตลาดอินโดจีนริมฝั่งแม่น้ำโขงกล่าวว่าอาชีพตนต้องอยู่กลางแจ้งตลอดเวลาซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็ได้รับผลเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงเย็น จะมีกลุ่มควันปกคลุมไปทั่วจนมองข้ามไปฝั่งลาวแทบไม่เห็นอะไรเลย ควันไฟและฝุ่นละอองทำให้แสบตาและหายใจติดขัด บางทีแสบจนน้ำตาไหลเลยทีเดียวถึงจะใส่หน้ากากอนามัยก็ยังช่วยอะไรได้ไม่มากหนักๆ เข้าต้องหลบเข้าไปอาศัยพรรคพวกอยู่ในห้องแอร์เมื่อค่อยยังชั่วจึงออกมาอีกที
ส่วนรังสฤษฏ์ พิศพาร อายุ 50 ปี มีอาชีพขายขนมปังข้าวจี่ปาเต๊ะ อยู่บริเวณหน้าตลาดอินโดจีนในเขตเทศบาลเมืองนครพนม กล่าวว่าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาจนถึงวันนี้จะมีกลุ่มฝุ่นควันลอยมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเยอะมากจนหายใจติดขัดจนต้องใส่เครื่องป้องกันทั้งแว่นตาและหน้ากากอนามัยเพื่อให้สามารถยืนอยู่กลางแจ้งเพื่อขายของได้ แต่เมื่อมีกลุ่มฝุ่นควันมาเยอะก็ทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยวมากนัก จึงส่งผลกระทบกับยอดขายเป็นอย่างมาก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนถึงจะผ่านสถานการณ์แบบนี้ไปได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: