สถานการณ์มลพิษทางอากาศของจังหวัดนครพนม เริ่มทุเลาลงตามลำดับจากขั้นวิกฤตลงมาที่ค่าเริ่มมีผลกระทบแล้ว
วันที่ 13 มีนาคม 2566 จากข้อมูลของแอปพลิเคชั่น Air4thai ซึ่งเป็นแอปสำหรับตรวจวัดคุณภาพของอากาศ แสดงผลตัวเลขคุณภาพทางอากาศ พบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 วัดลงมาได้ที่ 51 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร เมือเวลา 11.00น. ลดลงจากเมื่อวานที่เคยวัดค่าได้ 96 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) แต่ก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่คุณภาพอากาศยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ(AQI) อ่านค่าได้ 101 ลดลง แต่ก็ยังอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปของบริเวณ ลานตะวันเบิกฟ้าหน้าตลาดอินโดจีน สุดเขตแดนสยาม นครพนม เมืองท่าแขก จุดเช็คอินสำคัญอีกแห่งหนึ่งริมฝั่งโขง เขตเทศบาลเมืองนครพนม เริ่มมีนักท่องเที่ยวและประชาชนออกมาชมธรรมชาติและออกกำลังกายเพิ่มขึ้นตามสมควร เนื่องเพราะสภาพอากาศปลอดโปร่งมองเห็นวิวทิวทัศน์มีกระแสลมค่อนข้างแรงกว่าทุกวันที่ผ่านมา ช่วยทำให้กลุ่มฝุ่นควันมลพิษพัดกระจายออกไปได้พอสมควร
จากการสอบถาม นายยุวชาติ กุลาตี อายุ 57 ปี ผู้ประกอบการค้าขายในตลาดอินโดจีนร่วม 20 ปี กล่าวว่า 2-3 วันที่ผ่านมาตนได้รับกระทบจากปัญหาฝุ่นควันที่พัดมาจากประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างมาก แต่วันนี้มีกระแสลมที่พัดมาค่อนข้างแรงทำให้บรรเทาปัญหาดังกล่าวลงได้ไม่น้อย
สำหรับการบรรเทาความเดือดร้อนจากค่ามลพิษที่อยู่ในเกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เมื่อเวลา 09.00น. นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ การฉีดพ่นน้ำเพื่อขจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีค่าเกินมาตราฐานที่สูงอยู่ในขณะนี้ โดยใช้ยานยนต์ดับเพลิง LUF60 ยานยนต์พ่นไอน้ำและหมอกแรงดันสูงจาก ศูนย์ ปภ.เขต 7 สกลนคร ช่วยสนับสนุนในการพ่นไอน้ำเป็นละอองฝอย เพื่อเกาะจับฝุ่นละอองขนาดเล็กให้เจือจาง ด้วยระยะการฉีดพ่นที่ความสูง 60 เมตร บริเวณลานพญาศรีสัตตะนาคราช ถนนนิตโย เพื่อต้องการให้ไอน้ำที่พ่นออกไปเกาะจับกับกลุ่มควันหรือฝุ่นละอองที่มีค่า PM ที่สูงเหล่านี้ให้ลดน้อยลง คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวนี้จะเริ่มทุเลาลงตามลำดับ
นอกจากนี้ทางหน่วยราชการได้เพิ่มความเข้มงวดยังผู้ประกอบการต่างๆในเขตพื้นที่เทศบาลนครพนม ให้ลดละการปฎิบัติงานที่อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาฝุ่นควันดังกล่าวให้มากที่สุด ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในการจัดรถบรรทุกน้ำของเอกชน ร่วมกันออกฉีดล้างผิวจราจรเพื่อชะล้างฝุ่นควันตามเส้นทางบนท้องถนน ตลอดจนลดการใช้เครื่องจักรกลต่างๆ ที่อาจทำให้ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ
