นครพนม เริ่มเกณฑ์ทหารประจำปี 2566 ของพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดนครพนมของวันที่สาม พบผู้มาจับใบดำ-แดง และญาติที่เฝ้ารอผลอย่างหนาตา
กองทัพบกได้เริ่มทำการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (เกณฑ์ทหาร) ประจำปี 2566 จากการสำรวจบรรยากาศของการเกณฑ์ทหาร ที่หอประชุมอำเภอเมืองจังหวัดนครพนม พบว่าบรรยากาศภาพรวมมีผู้ที่เข้าเกณฑ์ต้องมาตรวจเลือกทหารกองเกินเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีการร่วมลุ้นให้ได้และไม่ได้รับเลือกจากบรรดาญาติที่มาให้กำลังใจอยู่บริเวณโดยรอบ
ขณะเดียวกัน พ.ท. ศรณณัฐ นวลมณี ประธานกรรมการตรวจเลือก ได้ให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวว่า ทางกองทัพบกได้มีการเปิดรับสมัครทหารออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ rcm66.rta.mi.th กรณีพิเศษ ตั้งแต่ 29 ส.ค.65 – 29 ม.ค.66 ที่ผ่านมา โดยเปิดรับสมัครชายไทยอายุ 18-20 ปี และ 22-29 ปี(เคยผ่านการตรวจเลือกทหารแล้ว แต่ไม่ถูกเลือก (ใบดำ)) ด้วยระบบออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมา มียอดรับสมัครแล้ว 28,642 นาย ทั้งนี้ผู้ที่สมัครส่วนหนึ่งก็คาดหวังจะมีสิทธิสอบในโควต้าของทหารกองประจำการเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก ถึง 80% ของยอดรับแต่ละปี หรือประมาณ 2,000 นายต่อปี ส่วน 20% ที่เหลือจะเปิดการรับจากบุคคลภายนอกสมทบเข้าเป็นทหารกองประจำการของปีนี้
สำหรับการตรวจเลือกทหารกองประจำการที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-20 เมษายน 2566 ปีนี้ยังไม่มีการรายงานยอดจำนวนเกณฑ์ทหารที่ชัดเจน แต่จากรายงานตัวเลขจำนวนการเกณฑ์ย้อนหลัง 3 ปี สังเกตุได้ว่ามีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นจากเมื่อปี 2563 จำนวน 97,324 นาย, ปี 2564 จำนวน 97,558 นาย และปี 2565 จำนวน 58,330 นาย
จากที่ผ่านมาของการตรวจรับทหารกองเกินเข้ากองประจำการของพื้นที่อำเภอเมืองนครพนมที่ผ่านมาตลอด 3วัน วันแรกจำนวนพบมีผู้ร้องขอเข้าประจำการเพื่อเข้าสังกัดในเหล่าทัพต่างๆ รวม21นาย จับใบแดง 70 ใบดำ 158นาย วันที่สอง มีผู้ร้องขอเข้าประจำการเพิ่มขึ้นอีก 28นายจับใบแดง 38นายและ ใบดำ 110นาย สำหรับในวันนี้จำนวนผู้เข้าเกณฑ์จำนวน 183นาย มีความต้องการ ทั้งสิ้น 77นาย แต่ได้มีผู้สมัครใจร้องขอเป็นทหารแล้ว 29นาย จึงต้องมีการจับใบแดง 48นายและส่วนที่เหลือใบดำอีก 135คน ท่ามกลางกองเชียร์ที่มาคอยสุ้นเป็นกำลังใจตลอดช่วงเวลาของทั้งวันที่ผ่านมา
ทั้งนี้แม้ว่าการเกณฑ์ทหารจะเป็นที่ถกเถียงในสังคมไทยอย่างยาวนาน และถูกนำมาใช้เป็นประเด็นทางการเมืองของบางพรรคการเมืองที่ต่างเสนอนโยบายการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และต้องการปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครใจ ว่าควรมีรูปแบบอย่างไร เพราะบางมุมมองเห็นว่าเป็นการเสียโอกาสในการประกอบอาชีพและความสุ่มเสี่ยงต่อชีวิต แต่ในขณะอีกแง่มุมหนึ่งของความมั่นคง ก็ยังยืนยันถึงเรื่องของความจำเป็นทางด้านกำลังพลที่ต้องมี
