ชาวบ้านโวย ผอ.โรงเรียนงุบงิบขายไม้พะยูง ผู้ว่าฯสั่งตรวจสอบพร้อมอายัดไม้พะยูง 4 ต้นรอการชี้แจงและตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 นางภัทรภา เคนโมง อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 10 ต.ขามเฒ่า .เมือง จ.นครพนม ได้เข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนมกล่าวหาว่ามีการตัดไม้พะยูงซึ่งเป็นไม้หวงห้าม ที่อยู่ในพื้นที่โรงเรียนบ้านนาหลวง ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม โดยไม่ชอบมาพากล โดยนางภัทรภาเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ที่กลุ่มบุคคลนำเครื่องจักรกลหนักเป็นรถแบคโฮ พร้อมเลื่อยยนต์ เข้าทำการขุดรอบโคนต้นไม้พะยูงเพื่อให้ต้นไม้ล้มลงแล้วใช้เลื่อยยนต์ ตัดออกเป็นท่อน ๆ และพร้อมจะขนขึ้นรถเทรลเลอร์ที่เตรียมนำมาด้วย ตนและชาวบ้านจึงได้เข้าไปขอตรวจสอบเอกสารการอนุญาตให้ตัดไม้ ปรากฎว่าทาง ผอ.โรงเรียนซึ่งเป็นเจ้าของ สถานที่ได้นำใบเสร็จรับเงินที่ออกโดยสำนักงานธนารักษ์จังหวัดนครพนม ยอดเงินรวม 490,000 บาท มาแสดงต่อพวกตน โดยอ้างว่าไม้จำนวนดังกล่าวมีการซื้อขายกันเรียบร้อยแล้วโดยผ่านธนารักษ์จังหวัดนครพนม ซึ่งตนไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นจึงได้แจ้งไปยังป่าไม้จังหวัดให้ส่งเจ้าหน้าที่ออกมาตรวจสอบไม้ทั้งหมดว่ามีการประเมินราคาจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้แล้วหรือยังทำไมจึงมีการออกใบเสร็จจากธนารักษ์จังหวัดนครพนม เพียงสี่แสนเก้าหมื่นบาท และตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่ายังไม่ได้มีการประเมินราคาไม้ดังกล่าวแต่อย่างใด และราคาจริงๆ ของไม้ทั้งหมดน่าจะมีราคาสูงกว่านั้นมาก ตนจึงได้แจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบพร้อมขอให้อายัดไม้จำนวนทั้งหมดสี่ต้นที่ถูกโค่นลงมากับพื้นแล้วไม่ให้เคลื่อนย้ายไปไหนไว้ก่อน พร้อมกับเข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนมเพื่อให้สอบสวนดำเนินการให้การซื้อขายไม้จำนวนนี้มีความโปร่งใสเพื่อให้ทางราชการได้รับประโยชน์สูงสุด
และหลังจากที่ได้เข้าพบนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าชี้แจงโดยมีธนารักษ์ จังหวัดนครพนม เจ้าของพื้นที่ และผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อให้ได้รายละเอียดข้อเท็จจริง ระหว่างนี้ให้เจ้าหน้าที่ทำการยึดอายัดไม้ทั้งหมดไว้ก่อน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบมาก่อน ระหว่างนี้ให้กำลังตำรวจและฝ่ายปกครองจัดเวรยามเข้าไปเฝ้าไม้พะยูงทั้งสี่ต้นไว้ก่อนจนกว่าจะได้ข้อสรุป
โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 นางกาญจนา บุญเวิน ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านนาหลวง ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ได้มีหนังสือที่ศธ.04060.0152/22 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2566 ถึงธนารักษ์ จังหวัดนครพนม เพื่อแจ้งขออนุญาตตัดไม้พะยูงจำนวนสี่ต้น ในที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นพ.1212 ตำบลท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม เนื่องจากต้นไม้ดังกล่าวอยู่ใกล้ตัวอาคารและแนวรั้วโรงเรียนเสี่ยงต่อการหักโค่น ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาได้
ซึ่งทางธนารักษ์จังหวัดนครพนม โดยนายพรชัย ผาคำ ผู้อำนวยการส่วนบริหารงานทั่วไป ได้มีหนังสือเลขที่ กค.0318.19/ว ลงวันที่ 31 มีนาคม 2566 ถึง ผอ.โรงเรียนบ้านนาหลวง อนุญาตให้ตัดไม้ในที่ราชพัสดุตามที่ขอได้ โดยให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการปกครอง ดูแลบำรุงรักษาและการใช้ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2546 ข้อ 21และ 22 โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน เพื่อประเมินราคาต้นไม้ทั้งนี้หนึ่งในกรรมการจะต้องเป็นผู้ชำนาญการหรือมีความรู้เกี่ยวกับการประเมินราคาไม้ ที่จะทำการขาย และในการจำหน่ายต้นไม้จะต้องดำเนินการระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างด้วย
ส่วนเหตุที่มีการร้องเรียนเนื่องจากมีการขายไม้ได้ราคาสูงกว่าราคาที่ส่งมอบให้กับธนารักษ์จังหวัดนครพนมโดยเบื้องต้นราคาที่ตกลงซื้อขายกันอยู่ที่หนึ่งล้านสองแสนบาท แล้วมีการขายต่อไปอีกทอดหนึ่งในราคา หนึ่งล้านแปดแสนห้าหมื่นบาท แต่มีการออกใบเสร็จรับเงินของธนารักษ์จังหวัดนครพนม เพียงสี่แสนเก้าหมื่นบาทเท่านั้นจึงทำให้ชาวบ้านที่ทราบเรื่องต่างไม่พอใจจึงพากันออกมาร้องเรียนดังกล่าว
