นครพนม – ยึดกัญชาสวมสิทธิ์พร้อมผู้ต้องหา 4 คน ขณะขนกัญชาแห้งแบบช่อดอกอัดแน่น 13 กระสอบ ข้ามโขงในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม
กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดย พันเอก สุริวัชร์ อัครพรเดชาพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 21/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม ว่าจะมีการลักลอบนำเข้าดอกกัญชาแห้งจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อจำหน่ายในห้วงหลังเทศการสงกรานต์ บริเวณพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขง บ.ท่าลาด ม.9 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม จึงสั่งการให้กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 นำทีมโดย ร้อยโท วันชาติ เหมือนปืน ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 บูรณาการจัดชุดปฏิบัติการ ออกลาดตระเวน ซุ่มและเฝ้าตรวจตาม จุดเสี่ยง พื้นที่เป้าหมาย ตามที่ได้รับการแจ้ง
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 เม.ย.66 เวลา 06.50 น. เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่ได้ตรวจพบเรือประมงขนาดเล็ก (เรือกีบ) ต้องสงสัย จำนวน 1 ลำ ทำการล่องเรือเข้ามาจอดบริเวณสันดอนทราย และทำการโยนสิ่งของที่ขนมาบนเรือไว้ที่สันดอนทราย ต่อมาได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งเป็นคนไทย จำนวน 4 คน เดินลงไปขนย้าย สิ่งของต้องสงสัยดังกล่าว ชุดปฏิบัติการที่ทำการซุ่มอยู่ จึงแสดงตนขอตรวจสอบ เมื่อกลุ่มชายดังกล่าว พบเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ จึงได้ทิ้งสิ่งของที่แบกมา แล้วทำการวิ่งหลบหนีแต่ชุดปฏิบัติการของหน่วยวิ่งเร็วกว่า จึงสามารถวิ่งไล่ติดตามจับกุมไว้ได้ จากนั้นจึงเข้าทำการตรวจสอบสิ่งของต้องสงสัย พบเป็นพืชกัญชาแห้งแบบช่อดอกอัดแน่นภายในกระสอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากร จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ซึ่งประกอบด้วย 1.นายครรชิต ผาลี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 ม.9 บ.ท่าลาด ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม 2. นายพนมเดช ภาโสม อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 41 ม.1 บ.แพงใต้ ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม 3.นาย กิษดา อุดมกัน อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 26/5 ม.9 บ.ท่าลาด ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม และ4.นายทวีชัย ภาโสม อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 100 ม.5 บ.ดงน้อย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม และของกลางเป็นดอกกัญชาอัดแน่นบรรจุอยู่ในกระสอบจำนวน 13 กระสอบน้ำหนักรวมประมาณ 250 กิโลกรัม มายัง บก.ร้อย.ฉก.ทพ. 2108 เพื่อทำการตรวจสอบ พร้อม ประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ร่วมตรวจสอบนำของกลางทั้งหมดส่งให้ สภ.บ้านแพง จ.นครพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
