วันที่ 22 เม.ย.66 เวลาประมาณ 16.00 น. เกิดพายุฝนฟ้าคะนองเป็นบริเวณกว้างกินพื้นที่ 4 อำเภอคืออำเภอเมือง อ. ธาตุพนม อ.นาแก และ อ.เรณูนครโดย ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเหตุ ว่า ได้รับแจ้งเหตุที่ อบต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม ว่ามีกระบือถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตที่บริเวณทุ่งนาในซอยข้าง อบต.นางาม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านกำลังเคลื่อนย้ายซากกระบือ ขึ้นบนรถไถนา สภาพของกระบือที่พบ บริเวณลำตัวของกระบือมีรอยฟกช้ำ บริเวณท้องเนื่องจากถูกฟ้าผ่าและสังเกตุพบว่า บริเวณดังกล่าวมีเสาไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่าน อาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดฟ้าผ่าในครั้งนี้ได้
นางไพศาล ปิตะ อายุ 55 ปี ชาว ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม กล่าวว่า ตลอดทั้งวันอากาศร้อนอบอ้าว พอตกบ่ายก็เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำมาอย่างแรง โดยขณะนั้นตนได้ปล่อยควายไว้กลางทุ่งนาระหว่าง ฝนตกหนักไม่สามารถออกมาดูแลหรือลากจูงไปเข้าหลบในที่ร่มได้จนถูกฟ้าผ่าตายไป 3 ตัว จากที่มีทั้งหมด 11 ตัว โดยช่วงนั้นตนได้ยินเสียงฟ้าผ่าอย่างแรงก็ตกใจมากภายหลัง น้องสะใภ้แจ้งให้ไปดูควายที่ทุ่งนา ไม่รู้เป็นของใครถูกฟ้าผ่าตายกลางทุ่งนาถึง 3 ตัวเป็น เพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 2 ตัว มีมูลค่าประมาณตัวละ 21,500 บาท โดยชาวบ้านช่วยกันซื้อเพื่อช่วยเจ้าของ กระบือที่เสียชีวิต โดยชาวบ้านจะนำมาชำแหละ เพื่อนำไปประกอบอาหารต่อไป
และหลังพายุสงบเจ้าหน้าที่ได้ออกสำรวจความเสียหาย พบว่ามีบ้านเรือนราษฏรได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างกินพื้นที่ถึง 4 อำเภอ โดยเฉพาะที่ตำบลโพนแพง บ้านเรือนถูกพายุพัดพังเสียหาย 150 หลังคาเรือน ต.นาถ่อน 60 หลังคาเรือน ตำบลดอนนางหงส์ เสียหาย 112 หลังคาเรือน รวมที่อำเภอธาตุพนมได้รับความเสียหาย 372 หลังคาเรือน และในจำนวนนั้นมี 124 หลังคาเรือนที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักโดยมีรายงานเมื่อเวลา 22.00 น. มีบ้านเรือนราษฏรที่ได้รับความเสียหายจากวาตะภัยในครั้งนี้รวมทั้งสี่อำเภอมีถึง 535 หลังคาเรือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วและรายงานให้มางจังหวัดทราบเพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
