นครพนม – เจ้าของบ้านร้างลั่น! ไม่คิดฟ้องคนบุกรุก ลงข่าวครั้งสองทัวร์ลง โต้สุดแสบ!ไม่ฟ้องนายไม่ขายเพื่อน
จากกรณีหญิงสาวสมาชิกพันทิปใช้ชื่อว่านัมนามู โพสต์ภาพบ้านหลังหนึ่ง ระบุว่าขณะกลับบ้านช่วงสงกรานต์ บังเอิญขับรถผ่านบ้านหลังนี้ ตั้งอยู่ที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถนนหน้าหาดแห่ พบบ้านเก่าถูกปล่อยทิ้งร้าง มีการตั้งเจดีย์ใส่กระดูกเรียงรายหน้าบ้านโดยสอบถามถึงความเป็นมาของบ้านหลังดังกล่าว หลังโพสต์ออกไปมีชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
โดยบางรายบอกว่าบรรยากาศคงน่ากลัวอาจถูกทิ้งร้างมานาน และบ้านหลังนี้อาจไม่มีประวัติขนลุกใดๆ เจ้าของอาจเคยทำธุรกิจขายศาลที่ใส่กระดูก หรืออาจจงใจวางเจดีย์ใส่กระดูกไว้กันขโมยก็เป็นได้
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนมเดือดร้อน! แม่ค้าหวยร้องไห้ รถจักรยานยนต์พร้อมลอตเตอรี่เกือบ 600 ใบถูกขโมย วอนคนร้ายนำมาคืน
- นครพนม เหตุการณ์สลด! เมีย พบศพสามีนอนเสียชีวิตคาเถียงนา คาดโรคประจำตัว
- นครพนม : นักวิ่งกว่า 3,000 คน ร่วมการแข่งขัน ‘นครพนม-คำม่วน มาราธอน ซีซั่น 6’ เชื่อมสัมพันธ์สองฝั่งโขง ชมสวยที่สุดที่นครพนม
- นักศึกษาปี 3 ม.นครพนม ซิ่งจยย.ชนท้ายกระบะเสียชีวิต ขณะเดินทางไปเรียน
ขณะที่เพื่อนบ้านและชาวบ้านออกมาระบุว่า บ้านหลังนี้ไม่มีประวัติขนลุกใดๆเจ้าของเป็นอดีตครู หลังเกษียณอยู่บ้านหลังนี้ได้ 3 ปีก็เสียชีวิต ส่วนญาติผู้ตายเป็นหมอพยาบาลและเภสัชกร มีบ้านหลายหลังและมีฐานะดี จึงไม่ค่อยมีใครมาอยู่จนถูกทิ้งร้างมานานร่วม 10 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาที่มีสื่อบางราย ระบุว่าไม่ถามความจริง อ้างว่ามีคนมาบุกรุกเข้าไปบ้านหลังดังกล่าวไม่ขออนุญาตเจ้าของบ้านก่อนถ่ายภาพ รวมถึงนำเสนอข่าวไม่สร้างสรรค์ สร้างความเข้าใจผิด และยังอ้างว่าเจ้าของบ้านเสียความรู้สึก อยากให้คนที่นำเสนอข่าวมาขอโทษ และแก้ข่าวให้ทุกสำนัก หากไม่ดำเนินการจะฟ้องดำเนินคดีฐานบุกรุก
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางกลับไปที่บ้านหลังดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งเพื่อพบกับ นางกลิ่นเมล็ด เมตุลา วัย 65 ปี อดีตพยาบาลหัวหน้าตึกหญิง รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงให้กระจ่าง เนื่องจากก่อนหน้านี้ชาวบ้านที่อยู่ละแวกบ้านหลังดังกล่าวให้ข้อมูลว่าเจ้าของบ้านเสียชีวิตแล้ว โดยนางกลิ่นเมล็ด เมตุลา กล่าวว่า น้องชายตนคือนายสุนทร ลำลอง หรือ ครูเซียง ขณะเสียชีวิตอายุ 57 ปี เป็นบุตรคนที่ 5 จากทั้งหมด 9 คน ส่วนตน คนเป็นลูกคนที่ 4 ของพ่อแม่ เดียวกัน ก่อนที่น้องชายคนที่ 5 จะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว น้องชายคนนี้ไม่สบายมา 3 ปีตนยังเอามาดูแล ก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการในปี 2561
หลังจากครูเซียง น้องชายเสียชีวิตในปี 2559 บ้านหลังนี้นานๆตนจะมาดูแลเป็นบางครั้ง โดยพี่น้องทั้งหมดเป็นครู ยกเว้นตนเป็นพยาบาลวิชาชีพ หลังออกข่าวไปครั้งที่ 2 มีทัวร์มาลงที่ตน ครั้งแรกที่ลงก็ไม่ใส่ใจอะไร พอมีสื่อมาลงข่าวครั้งที่สอง ก็เริ่มหงุดหงิดและไม่สบายใจ
ทัวร์มาลงอีกรอบจากญาติพี่น้อง และลูกหลานที่ไปอาศัยอยู่ต่างจังหวัดสื่อลงข่าวครั้งที่สองตนไม่ได้พักผ่อนเลย มีญาติและเพื่อนโทรศัพท์มาสอบถามเยอะมากรับสายจนเสียงแหบแห้ง แต่ที่หนักมีน้องสาวอยู่กรุงเทพฯ และ จ.พิษณุโลก โทรมาสอบถามน้ำเสียงเหมือนคนจะร้องไห้
น้องสาวที่ดูข่าวออกทุกช่องเขาคงน้อยใจ ว่าเอ๊ะทำไมว่าบ้านเรา มันถึงขนาดนั้นเลยเหรอ ตนเลยพูดไปว่าถ้าที่บ้านมีผีหรือวิญญาณถ้าใครพบใครเจอตนจะให้เงิน 1 แสนบาทเลย ผีกับคนมันอยู่คนละส่วน ยังไงน้องชายตนก็เสียแล้วให้เกียรติเขาด้วย และให้เกียรติในสิ่งที่มองไม่เห็น ไม่เชื่อก็ไม่ควรหลบหลู่บางทีชาวบ้านแถวนี้อาจไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงจึงให้ข้อมูลไปผิด ๆ
“ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าตนไปพบนายอำเภอธาตุพนม ปลัดอำเภอ และปรึกษาทนายความ เพื่อจะดำเนินคดีกรณีมีผู้มาบุกรุกถ่ายภาพโดยไม่ขออนุญาตนั้น ตนเห็นว่าไม่เกี่ยวกัน ฉันไม่ได้อาศัยบุคคลเหล่านั้นมาหากิน ด้วย คนอย่างตนไม่ทำ ไม่ฆ่าน้องไม่ฟ้องนายไม่ขายเพื่อน ด้วยวิชาชีพไม่มีและไม่คิดจะทำ” อยู่ตรงกลางตลอดและอยู่ด้วยความถูกต้อง ส่วนใครจะเข้าบ้านหลังนี้ จะเข้าจะออกมาเลย ยืนยันว่าตนไม่เคยคิดจะแจ้งความใครข้อหาบุกรุกคือมาต้องบอก แต่ถ้าเป็นชาวบ้านไม่ต้องบอกตนกรณีจะมาตากข้าว เอาวัวมาล่ามกินหญ้า มาเกี่ยวหญ้าให้โค-กระบือ สามารถทำได้เลยตนไม่เคยห้ามใคร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: