วันที่ 26 เมษายน 2566 ที่จังหวัดนครพนม พลเอกชนะทัพ อินทามระ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นประธานนำนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน คณะผู้บริหาร ข้าราชการ ลูกจ้าง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 5 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร และจังหวัดนครพนม ตลอดจน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันประกอบพิธีเปิดอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครพนมแห่งใหม่ เพื่อใช้ในการปฏิบัติราชการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินของหน่วยรับตรวจในพื้นที่จังหวัดนครพนม โดยมีพระเทพวรมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครพนม จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 ตามโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายในของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่กำหนดให้มีสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดในทุกจังหวัด โดยที่ผ่านมาได้รับความอนุเคราะห์จากจังหวัดนครพนม ให้ใช้พื้นที่อาคารศาลากลางจังหวัดนครพนมเป็นสถานที่ปฏิบัติราชการ ต่อมาสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้รับอนุมัติงบประมาณ เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการพร้อมบ้านพักและสิ่งก่อสร้างประกอบ บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นพ. 1347 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม เนื้อที่รวม 10 ไร่ วงเงิน 73,600,000 บาท (เจ็ดสิบสามล้านหกแสนบาทถ้วน) ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2562 และแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ดังนั้นเพื่อความเป็นสิริมงคลตามประเพณีโบราณที่ถือปฏิบัติสืบต่อเนื่องกันมา สำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครพนมจึงได้จัดพิธีเปิดอาคารที่ทำการขึ้นในวันนี้ ก่อนที่จะใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติราชการแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินของหน่วยรับตรวจในความรับผิดชอบ จำนวนทั้งสิ้น 188 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยงานราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 81 หน่วย องค์กรอิสระ 2 หน่วย มหาวิทยาลัยของรัฐ 1 หน่วย และหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นอีกจำนวน 104 หน่วย มีนายปริญญา ฉันทวรางค์ เป็นผู้อำนวยการสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดนครพนม มีข้าราชการและลูกจ้าง รวมทั้งสิ้น 14 คน ประกอบด้วย ข้าราชการ 11 คน และ ลูกจ้าง 3 คน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: