X

ชาวบ้านยังคงเดินทางมากราบนมัสการองค์พระธาตุพนมอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีข่าวจะปิดวัด

นครพนม – ชาวบ้านยังคงเดินทางมากราบนมัสการองค์พระธาตุพนมอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีข่าวจะปิดวัดเป็นเวลา หนึ่งเดือน ขณะที่แม่ค้าโอดเดือดร้อนแน่หากปิดจริง

จากกรณีที่มีการประกาศปิดวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม เป็นอย่างมาก โดยในกรณีดังกล่าวทางคณะไวยาวัจกรของวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ได้ชี้แจงถึงกรณีการดำเนินการปิดวัดพระธาตุพนม เป็นการปิดวัดเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์บางส่วนภายในวัด ทั้งนี้วัดยังคงเปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้าไปกราบไหว้สักการะองค์พระธาตุพนมได้ตามปกติ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 21.00 น. ซึ่งผู้ที่เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล สามารถนำรถไปจอดที่ลานจอดรถหน้าวัดได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมเพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบว่านักท่องเที่ยวและผู้มีจิตศรัทธา ยังคงเดินทางมากราบนมัสการองค์พระธาตุพนมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า และยังคงมีการวางแผงขายของอยู่บริเวณหน้าวัดอยู่อย่างประปราย โดยนางขวัญตา และนายสมพิมพ์ สุมินทร์ สองสามีภรรยา ที่มีรถจักรยานพ่วงข้างมาตั้งขายเครื่องดื่มอยู่บริเวณหน้าวัด เปิดเผยว่าพวกตนมีอาชีพขายเครื่องดื่มแบบนี้ให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมากราบไหว้องค์พระธาตุพนมเป็นเวลากว่าสามสิบปีมาแล้ว โดยแต่ก่อนก็ได้เข้าไปขายภายในวัดเลย เนื่องจากยังมีคนขายไม่เยอะ โดยทางวัดก็จะเก็บค่าวางแผงวันละ 20 บาท ซึ่งพวกตนก็ยินดีจ่ายเนื่องจากเป็นการบำรุงวัด และเริ่มมีปัญหาก็เมื่อมีการเสนอให้วัดพระธาตุพนมเป็นมรดกโลก หลังจากนั้นก็เริ่มให้แม่ค้าที่ขายของข้างในบริเวณวัดออกมาขายข้างนอก ซึ่งขณะนั้นด้านนอกวัดก็มีแม่ค้ามาวางของขายกันอยู่แล้วคนที่ถูกให้ย้ายออกมาก็จะต้องไปขายในจุดที่อยู่ห่างไกลจากที่นักท่องเที่ยวเดินผ่านจึงไม่สามารถขายได้เลย จากที่เคยขายได้วันละห้าถึงหกร้อย ก็ขายได้เพียงร้อยสองร้อยบาทซึ่งไม่พอเอามาเลี้ยงครอบครัว พวกตนจึงต้องขนขวาย หาที่ตั้งใหม่เพื่อให้สามารถขายของได้บ้างซึ่งก็ลำบากมากเนื่องจากทำเลขายของเขาก็มีเจ้าของที่เดิมจับจองไว้จนหมดแล้ว แต่เพื่อความอยู่รอดก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันขอจอดรถแทรกตามช่องว่างเหมาะๆ ให้พอขายได้บ้าง ส่วนที่มีข่าวว่าทางวัดจะปิดวัดหนึ่งเดือนนั้นหากเป็นจริงก็ส่งผลกระทบกับรายได้ของพวกตนอย่างแน่นอน

ส่วนแม่ค้ารายอื่นๆ ก็ให้ความเห็นสอดคล้องกัน ด้านนายสัญญา ทองสะพรั่งพ่อค้าขายมะพร้าวอ่อน  เปิดเผยว่าการที่ทางวัดอ้างว่าจะปิดวัดเพื่อปรับปรุงภูมิทรรศน์ภายในวัดนั้นตนคิดว่าน่าจะทุบตึกบางตึกเพื่อสร้างสโมสร อะไรสักอย่างมากกว่า แต่ที่ติดใจคือความเป็นอยู่ของพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายที่นี่มาเป็นเวลา 20 ถึง 30 ปี จะให้เขาไปอยู่ที่ไหน เขาขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่จนปัจจุบันตกมาถึงรุ่นลูกแล้วถ้ามีการปิดวัดก็ต้องได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าอย่างแน่นอน ตนขอถามว่าทนายอนันต์ชัย รู้ เรื่องภายในวัดอะไรบ้าง เขาบอกจะปิดวัดเพื่อกวาดล้างมาเฟีย มาเฟียที่ว่าเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่นำของมาขายที่วัดหรือเป็นกรรมการวัดบางคน กันแน่  เท่าที่ตนรู้มาจากพ่อค้าแม่ค้าแถวนี้พบว่ามีกรรมการบางคนมีประวัติไม่ค่อยดีแต่เจ้าอาวาสก็แต่งตั้งให้เข้ามาทำงานซึ่ง ตนเห็นว่าไม่น่าจะถูกต้อง ในความเห็นของตนมาเฟียไม่ใช่พวกพ่อค้าแม่ค้าอย่างพวกตนแน่นอน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน