นายแพทย์ นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ด้วยองค์การอนามันโลกได้กำหนดให้สัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายนของทุกปี เป็นสัปดาห์แห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก (World Immunization Week 2023) เพื่อเน้นย้ำถึงการประสานความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการส่งเสริมการใช้วัคซีนเพื่อป้องกันประชาชนทุกช่วงวัยจากโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ดังนั้นจึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุของค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน จัดกิจกรรมเนื่องในสัปดาห์แห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก ในวันที่ 26 เมษายน 2566 และมีกิจกรรมต่อเนื่อง โดยการสร้างความร่วมมือในพื้นที่นำร่องที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งจังหวัดนครพนมเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับการคัดเลือกดังกล่าวและสถาบันวัคซีนแห่งชาติได้เล็งเห็นความสำคัญของการสื่อสาร นอกเหนือจากความร่วมมือของหน่วยงานบริการทางสาธารณสุขในพื้นที่ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งต่อความรู้สู่ประชาชน และได้รับความเชื่อถือจากประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้มีการเชิญสื่อมวลชนของจังหวัดนครพนมในแขนงต่าง ๆ มาร่วมหารือ เพื่อที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนชาวนครพนมได้มีความรอบรู้เรื่องวัคซีน เพื่อเป็นต้นแบบแนวทางในการพัฒนาสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้กับประชาชน
โดยในโอกาสนี้ นางจงกล ธมิกานนท์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้ให้ข้อมูลว่า ข้อมูลการรับวัคซีนของคนนครพนมในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดใหม่ ๆ มีประชาชนเข้ารับวัคซีนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่ปัจจุบันพบว่าทุกคนมีความสนใจน้อยมาก หรือบางครั้งลูกหลานก็ปฏิเสธความต้องการที่จะฉีดวัคซีน แม้กระทั่งวัคซีนพื้นฐานที่จะให้กับผู้ป่วยกลุ่มรายโรคที่ได้รับการจัดสรรมาจาก สป.สช. เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีคนมาฉีดประมาณ 80 % ของวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรทั้งที่ความจริงแล้วการฉีดวัคซีนทำให้ผู้ที่ฉีดมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้น เมื่อเกิดการเจ็บป่วยอาการก็ไม่รุนแรง อย่างไรก็ดีเพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้นกันให้ประชาชนในพื้นที่ โดยในช่วงเดือนมิถุนายน 2566 จังหวัดนครพนมเตรียมจัดกิจกรรมฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นแถมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่สนใจได้รับวัคซีนพร้อมกัน 2 ตัว โดยจะมีบุคลากรของสำนักงานสาธารณสุขรับวัคซีนให้เห็นเป็นตัวอย่าง เพราะหลายคนก็มีความกังวลเกี่ยวกับอาการข้างเคียงตามมาหากฉีดวัคซีนแล้ว ทั้งยังจะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้มีความรู้และเห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน
ขณะที่ ดร.ทนพญ.มนัสนันท์ ขันใส นักวิชาการวัคซีน สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวในที่ประชุมว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้ประชาชนมีความรู้ในเรื่องของวัคซีนเพิ่มขึ้นเยอะมาก ซึ่งมีทั้งข้อมูลที่ได้รับจากแพทย์ พยาบาล ตลอดจนการค้นหว้าหาเองตามตำราหรือระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้บางคนอาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งสถาบันวัคซีนแห่งชาติไม่อยากให้จบไปพร้อมกับการเข้าใจที่ผิด เนื่องจากวัคซีนนั้นอยู่กับเราตลอดช่วงอายุ เพราะทุกคนจะได้วัคซีนพื้นฐานที่หน่วยงานรัฐจัดบริการให้ฟรี หรือถ้าใครหลายคนรู้รายละเอียดเพิ่มมากยิ่งขึ้น ก็จะรู้ว่ามีแม้กระทั่งภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่เหมาะกับกลุ่มผู้ป่วยโรคไตและกลุ่มที่ได้รับยารักษาที่กดภูมิคุ้มกัน เพียงแต่ตัวนี้จะมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนทุกคนได้รับองค์ความรู้ที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง และไม่ตื่นตูมอีกครั้งเมื่อมีโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้น เพราะถ้าทุกคนมีความรู้พื้นฐานที่เพียงพอจะสามารถตั้งรับได้มากขึ้น ส่วนการหารือในวันนี้ได้ข้อตกลงร่วมกันที่จะขับเคลื่อนองค์ความรู้สู่ประชาชนในพื้นที่ โดยทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม จะเป็นหน่วยข้อมูล ส่วนสื่อมวลชนจะนำข้อมูลที่ได้รับไปขยายผลต่อผ่านช่องทางของตนเองที่มี โดยหลังจากนี้จะมีการติดตามเก็บข้อมูล เพื่อจะได้เป็นต้นแบบนำร่องในการขับเคลื่อนงาน พร้อมนำไปโชว์ในการประชุมเขตสุขภาพ รวมถึงที่กรมควบคุมโรค มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน และองค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทยจัดกิจกรรม
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: