X

สกู๊ปข่าว นรข.ร่วมใจต้านภันยาเสพติด

พลเรือตรี สมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง กล่าวว่า ด้วยพื้นที่รับผิดชอบตามลำน้ำโขง ซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นแนวชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ ตั้งแต่เชียงรายไล่ผ่านจังหวัดต่าง ๆ ไปออกที่อุบลราชธานี อำเภอโขงเจียม พื้นที่ประมาณ 900 กิโลเมตรเศษ เป็นพื้นที่ที่ยาวไกลในการวางกำลังสกัดยาเสพติดต่าง ๆ ก็เป็นปัญหาบ้าง แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคใหญ่ในการวางจุดปฏิบัติการณ์ ซึ่งสถานการณ์โดยรวมในปี 2565 ที่ผ่านมายาเสพติดยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง ประเภทยาไอซ์มีแนวโน้มของการจับกุมตรวจยึดตามแนวริมฝั่งแม่น้ำโขงค่อนข้างสูงขึ้นมากกว่าปีก่อน ส่วนยาบ้าก็ยังคงมีเช่นเดียวกันไม่ได้ลดน้อยลงไป เพียงแต่ยาไอซ์จะสูงกว่า หลัก ๆ ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ตรวจยึดได้ก็จะมีที่อำเภอเชียงแสน แม่น้ำสบรวก จังหวัดเชียงราย เป็นยาบ้า 6 ล้านเม็ด ส่วนยาไอซ์ที่มากที่สุดคือที่สถานีเรือบ้านแพง จังหวัดนครพนม ตรวจยึดได้ 600 กิโลกรัม แล้วก็มีที่อำเภอท่าอุเทนอีก 100 กว่ากิโลกรัม รวมถึงที่สถานีเรือโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย อีก 300 กว่ากิโลกรัม ซึ่งในรอบปีนี้รวม ๆ แล้วตรวจยึดยาไอซ์ได้ประมาณ 1,000 กว่ากิโลกรัม ส่วนยาบ้าก็ 19 ล้านเม็ด ซึงในการสกัดกั้นต่าง ๆ นั้น จะมีขั้นตอนตั้งแต่การป้องปรามที่เป็นการลาดตระเวนตามจุดต่าง ๆ เพื่อกดดันไม่ให้ขบวนการลักลอบนำเข้ายาเสพติดทำงานได้อย่างสะดวก อีกรูปแบบคือการทำงานเชิงลับในการเฝ้าตรวจจุดที่มีความเสี่ยงในการลักลอบขนย้ายยาเสพติดในเวลากลางคืน ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำไล่ไปจนถึงช่วงเช้ามืด โดยมีชุดเฝ้าตรวจทั้งทางเรือและทางบกที่เป็นปฏิบัติการร่วมกับการข่าวของเจ้าหน้าที่หน่วยต่าง ๆ ที่บูรณาการและแฝงตัวในพื้นที่ให้ข้อมูล ข่าวสารเข้ามา เพื่อร่วมกันวางแผนสกัดกั้นจับกุม ทั้งนี้ความร่วมมือของชุมชน หรือ ชรบ. ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการให้เบาะแสภายในพื้นที่ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้นำมาเป็นข้อมูลในการป้องกันการกระทำความผิดทุกรูปแบบ

โดยวันต่อต้านยาเสพติดโลกในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ทางองค์การยูเนสโกและสหประชาชาติ ได้กำหนดไว้เป็นเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้ประชาชนทั่วโลกได้ตระหนักรู้ถึงพิษภัยของยาเสพติด และให้ตื่นตัวในการต่อต้านไม่ให้ยาเสพติดระบาด หรือเป็นการลด ตัดทอนเส้นทางต่าง ๆ เพื่อให้ลดน้อยลงไป หรือหมดไปในที่สุด ในส่วนของข้าราชการต่าง ๆ ที่มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดนั้นก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง มีการสกัดกั้นตามแนวชายแดน หรือพื้นที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการทำงานของฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด ขณะเดียวกันประชาชนชาวไทยเราเองก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เริ่มต้นจากครอบครัวเราเองที่ต้องช่วยกันดูแลบุตรหลาน ให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของยาเสพติด หลังจากนั้นชุมชนก็ช่วยกันสอดส่อง ว่าใครที่มีพฤติกรรมการขายก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องลงไปในรายละเอียดของการปฏิบัติเพียงแจ้งเบาะแสเบื้องต้นเข้ามาแบบลับ ๆ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตนก็ได้ เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการทันที โดยขอยืนยันว่าผู้ที่แจ้งข้อมูลจะมีความปลอดภัย ซึ่งถ้าทุกคนช่วยกันชุมชนก็จะมีความเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปความพยายามในการค้ายาเสพติดก็จะมีลดน้อยลง บุตรหลานที่ได้รับผลกระทบจากยาเสพติด แล้วมีอาการต่าง ๆ จากการเสพยาก็จะหายไปหรือมีน้อยลง ทำให้ภาระในการดูแลสังคมของทุกคนลดน้อยลงไปเช่นเดียวกัน

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน