น่องเหล็ก 200 ชีวิต ร่วมปั่นจักรยานเชื่อมโยง 3 ธรรม 3 จังหวัด คึกคัก สัมผัสเสน่ห์ของชีวิต พิชิตความงามทางธรรมชาติ
วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ที่บริเวณลานหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของนักปั่นจักยาน รวม 200 ชีวิต ที่มาร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานเชื่อมโยง 3 ธรรม 3 จังหวัด (สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร) ที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม จัดขึ้น เพื่อบูรณาการกิจกรรมการท่องเที่ยวและกีฬา ยกระดับกิจกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นงานประจำท้องถิ่นที่มีความหลากหลายสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้มาพำนักและขยายระยะเวลาการอยู่ในพื้นที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ทั้งเป็นการสร้างกิจกรรมท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุกในหลายมิติเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์การท่องเที่ยว สร้างการรับรู้เกี่ยวกับ 3 ธรรม คือ ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม กระตุ้นให้ผู้ที่สนใจได้มาสัมผัสเสน่ห์ของชีวิต พิชิตความงามทางธรรมชาติ กับความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์และอัตลักลักษณ์ของ 3 จังหวัดสนุก ที่ประกอบด้วย จังหวัดสกลนคร นครพนม และมุกดาหารที่มีความใกล้เคียงกันทั้งทางภูมิศาสตร์และประเพณีวัฒนธรรม มีความเชื่อมโยงเป็นอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ที่มีมาอย่างยาวนาน ด้วยการปั่นจักรยานท่องเที่ยว ชมความงดงาม ระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม 2566 รวมระยะทาง 119 กิโลเมตร
นายคงกริช พงษ์พันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า กิจกรรมในครั้งนี้ นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดและปล่อยตัวนักปั่นทุกคนในเวลา 6.00 น. เพื่อที่จะเริ่มปั่นจากบริเวณลานหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารไปยังแก่งกะเบา อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวริมฝั่งแม่น้ำโขง มีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม เช่น รูปปั้นหินอ่อนองค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราชสีขาวขนาดใหญ่ มีอาหารขึ้นชื่อแสนอร่อยอย่างหมูหัน มีลานนักษัตร 12 ราศี และลานวัฒนธรรม 8 ชนเผ่าให้ได้เดินชมกันเพลินๆ เป็นสถานที่พักผ่อนยอตฮิตที่มีความพิเศษแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู จากนั้นเดินทางต่อไปยังบ้านโสกแมว อำเภอธาตุพนม เยี่ยมชมศิลปวัฒนธรรมชนเผ่าไทข่าที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในแขวงสุวรรณเขต แขวงสาละวันและแขวงอัตปือของ สปป.ลาว ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งการจักรสาน อาหารพื้นถิ่น การแสดงผีโผน การประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อที่ผสมผสานระหว่าง ผี พุทธ และพราหมณ์ ตลอดจนความผูกพันระหว่างวิถีชีวิตกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่หล่อหลอมให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะชนเผ่า จากนั้นเดินทางไปยังวัดพระธาตุศรีคุณ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งมีองค์พระธาตุเก่าแก่ที่ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2350 ต่อมามีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในปี พ.ศ.2418-2440 โดยองค์พระธาตุศรีคุณมีลักษณะคล้ายกับองค์พระธาตุพนม ความสูงเฉลี่ย 24 เมตร เป็นศูนย์รวมและยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวนาแกให้ห่างไกลกิเลส พบแต่ความสงบ เพราะก่อนค้นพบองค์พระธาตุ พื้นที่ของเมืองนาแกเคยเป็นพื้นที่รบราฆ่าฟันแย่งชิงแผนดินมาตั้งแต่สมัยล้านช้างเรื่อยมาจนถึงอาณาจักรขอม จากนั้นเดินทางไปที่วัดป่านาคนิมิตต์ หรือวัดป่าบ้านนามน อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร ซึ่งมีเรื่องเล่าว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีพญานาคมาทำรอยเพื่อให้ชาวบ้านได้สร้างกุฏิถวายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโตเมื่อครั้งท่านเดินธุดงค์มาในพื้นที่ จากนั้นเดินทางไปพญาเต่างอย อำเภอเต่างอย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังในหมู่นักเสี่ยงโชคและผู้ที่มีจิตศรัทธา โดยลักษณะสำคัญของพญาเต่างอยจะเป็นเต่าขนาดใหญ่ เกล็ดบนหลังแต่ละเกล็ดมีรูปพระเกจิอาจารย์ประดับตกแต่ง ด้านบนหลังประดับดอกบัวปั้น และในดอกบัวมีสร้อยทอง พระ ของขลังต่างๆ บรรจุไว้พร้อมฉาบปิดแน่นหนา โดยเชื่อว่าหากใครได้มาสักการะบูชาจะทำให้อายุยืนยาวมีโชคมีลาภกลับไปทุกคน ก่อนที่ทุกคนจะไปสิ้นสุดกิจกรรมและพักผ่อนที่อุทยานแห่งชาติภูผายล ที่มีสภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูงสลับกับเทือกเขาหินทราย มีความสูง 300-600 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ที่มีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็น น้ำตก ถ้ำ หน้าผา เนินหิน อ่างเก็บน้ำ รวมถึงสัตว์ป่านานาชนิดให้ผู้ที่มาเยือนได้เรียนรู้และศึกษา
