นครพนม : เตือนภัยร้านโชห่วยระวังแก๊งตระเวนหลอกขายสินค้าไร้คุณภาพ หลังก่อเหตุในพื้นที่ อ.โพนสวรรค์
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566 เวลา 13.00 น. นายวันชนะ กิติศรีวรพันธุ์ อายุ 35ปี ชาวบ้าน ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ. เสวต แก้วพิลา รอง สว.สอบสวน สภ.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ว่า เมื่อเที่ยงของวันที่ 25 ก.ค. 2566 ขณะที่กำลังจัดเตรียมสถานที่จัดเป็นร้านค้าขายสินค้าเบ็ดเตล็ดอยู่นั้น ได้มีชาย 3 คน แต่งกายสุภาพลักษณะคล้ายพนักงานขายโดยทั่วไป ใช้ยานพาหนะรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุหลังคาไฟเบอร์สีขาว ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาแนะนำตัว ชื่อนายบอย เข้ามาเสนอขายสินค้าในราคาพิเศษอีกทั้งมีโปรโมชั่นอีกมากมาย รวมทั้งเสนอเงื่อนไขว่า หากสินค้าชนิดไหนขายไม่ได้ทางร้านค้าสามารถใช้สิทธิ์ ในการขอเปลี่ยนสินค้าเป็นชนิดอื่นที่ตรงความต้องการของลูกค้าได้
จึงทำให้ตนสนใจเงื่อนไขดังกล่าว จนตกลงสั่งซื้อสินค้า ต่างๆ ตามที่เสนอมาจากนั้นกลุ่มนายบอยพร้อมพวกก็ทำการจัดสินค้าประเภทต่างๆ มีทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มน้ำอัดลม สบู่ ยาสีฟัน เครื่องประทินผิวประเภทครีมทาผิวและน้ำหอมสตรี จำนวนหนึ่งรวมมูลค่าสั่งซื้อทั้งสิ้น 49,876 บาท ขณะส่งมอบสินค้ากลุ่มนายบอยทำทีให้ตนร่วมตรวจนับสินค้าไปพร้อมๆ กัน โดยทำทีเริ่มการตรวจนับอย่างละเอียดทั้งแบบชนิดชิ้นถึงชนิดแพ็คกล่อง โดยเป็นไปอย่างรอบคอบน่าเชื่อถือแต่ค่อนข้างแปลกใจในการนับจำนวนสินค้าดูล่าช้าพอสมควร
ข่าวน่าสนใจ:
- วัยรุ่นตะลุมบอนงานปลาลุ่มน้ำสงครามตร.กับฝ่ายปกครองเข้าระงับเหตุก่อนบานปลาย
- ตำรวจนครพนมทลายขบวนการค้ายาเสพติด ยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ด ไอซ์ 46 กก. ผู้ต้องหา 4 ราย รับจ้างข้ามชาติ
- พรรคเพื่อไทย จัดทีม “ฮักนครพนม” ลง นายก อบจ. - ส.อบจ.นครพนม
- นครพนมคึกคัก! เปิดศึกเลือกตั้ง อบจ. วันแรก “ศุภพานี-ประสงค์” ชิงชัย พร้อมนโยบายพัฒนาท้องถิ่น
กระทั่งมาถึงการตรวจนับสินค้ากลุ่มประเภทเครื่องสำอางและน้ำหอมต่างๆ ได้บันทึกรายการส่วนท้ายๆของรายการสั่งซื้อ กลุ่มของนายบอยได้ทำทีเลื่อนกล่องสินค้าแทนการนับจำนวนเข้ามาแทน ทั้งนี้ตลอดเวลาของการตรวจนับเอกสารต่างๆ ยังอยู่ในมือของนายบอยอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ตัวหนังสือของใบสั่งซื้อยังมีขนาดเล็กทำให้ตนเองก็ตรวจสอบค่อนข้างยาก จึงทำได้เพียงมองและสังเกตุตามไปกับนายบอยเท่านั้น หลังจากการตรวจนับแล้วเสร็จ นายบอยได้ยื่นบิลค่าสินค้าจำนวนเงินดังกล่าวข้างต้น ยื่นแก่ตนพร้อมยื่นข้อเสนอให้ชำระเป็นเงินสด โดยอ้างว่าหากชำระเงินด้วยเงินสดก็จะได้รับส่วนลดเพิ่มจากในบิลเพิ่มอีก 800 บาท ตนจึงเลือกใช้วิธีการชำระด้วยเงินสด ด้วยเห็นว่าเป็นการลดต้นทุนและเพิ่มกำไรตามที่นายบอยเสนอเงื่อนไข หลังจากนายบอยและพวกรับเงินสดและออกจากร้านไปแล้วตนก็
นำสินค้าทั้งหมดที่ซื้อมาเตรียมจัดเรียงเข้าชั้นวางของเพื่อวางจำหน่ายก็ พบว่า สินค้าที่นายบอยจัดให้ไม่ตรงปกและด้อยคุณภาพสอดแทรกเข้ามาเป็นจำนวนมาก เช่น สบู่น้ำนมแพะ น้ำหอมต่างๆ ที่นายบอยส่งให้ในราคาชิ้นละเป็นร้อยบาท ขณะที่ราคาตามตลาดนัดมีราคาเพียงไม่กี่สิบบาทเท่านั้น เมื่อตรวจสอบสิ้นค้าอย่างละเอียดพบว่าตนต้องสูญเสียเงินเป็นมูลค่าถึง 41,860 บาท จากการที่ต้องซื้อของแพงกว่าราคาที่เป็นจริง ตนจึงพยายามติดต่อกลับนายบอยก็ไม่รับสาย ทำให้เชื่อได้ว่าถูกแก๊งค์นายบอยต้มตุ๋นอย่างแน่นอน จึงได้เดินทางมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมนายบอยพร้อมพวกมาดำเนินคดีต่อไป และขอเตือนภัยไปยังร้านค้ของชำและโชห่วยตามหมู่บ้านต่างให้ระวังแก๊งมิจฉาชีพที่มาขายสินค้าแบบนี้ให้ตรวจเช็คสินค้าให้ละเอียดก่อนจ่ายเงินทุกครั้งด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: