เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านโชคอำนวย หมู่ที่ 11 ตำบลวังตามัว อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ภายหลังทราบว่า นายเสนาะ แสนสามารถ ได้ก่อเหตุทำร้าย พ่อแม่และน้องสาวแท้ๆของตนเอง ด้วยการใช้อาวุธปืนแก๊ปพาดทำร้ายใส่บิดารวมถึงทุบตีจนล้มลุกคลุกคลาน ไม่เว้นแม้แต่แม่และน้องสาวก็ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน
จากการสอบถาม นายวัฒนา เรือระดำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 หมู่บ้านโชคอำนวย ให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2566 ตนได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นางสาวธิดา แสนสามารถ น้องสาวของผู้ก่อเหตุว่า ครอบครัวของตนรวมถึงพ่อและแม่ถูกนายเสนาะพี่ชายได้ใช้ไม้ทำร้ายร่างกายพ่อและแม่ เกรงว่าจะได้รับความปลอดภัยและอาจถึงแก่ชีวิตได้ จึงได้เข้ามาแจ้งเพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว แต่เมื่อตนไปเพื่อระงับเหตุถึงยังบ้านที่เกิดเหตุกลับถูกนายเสนาะห้ามไม่ให้เข้ามาในบริเวณบ้านและยังขู่ฟ้องฐานบุกรุก
ผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า นายเสนาะ แสนสามารถ อายุ 31 ปีเป็นบุตรชายของนายทองศรี แสนสามารถ บิดาอายุ 71 ปี ทั้งนี้ตนเชื่อว่านายเสนาะ บุตรชาย ปกติเป็นคนที่มีสติสัมปะชัญญะดีทุกอย่างไม่เคยข้องเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิดนอกจากนี้ที่ผ่านมา แต่สาเหตุทำร้ายร่างกายพ่อของตนเองบ่อย ๆ อาจจะสืบเนื่องกับเรื่องทรัพย์สินมรดกที่ดินที่นาที่มีอยู่ ประมาณ 50-60 ไร่ หรือไม่นั้นไม่อาจทราบได้
ข่าวน่าสนใจ:
- นาทีหนีตาย!! โดดลงจากบ้านสูง 3 เมตร หนุ่มโรงงาน หวังรวยทางลัด วิ่งขายยาเสพติดในพื้นที่ ต.บ้านแก้ง สุดท้ายหนีไม่รอด
- จนท.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี รวบ 2 พรานป่าพร้อมอาวุธปืนครบมือ คาดเตรียมออกล่าสัตว์ป่า
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
- จังหวัดสกลนคร คุมเข้มเตรียมพร้อมป้องกันไฟป่า-งดเผา ลดฝุ่น PM 2.5
นายทองศรี ผู้เป็นพ่อกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนได้มีการแบ่งทรัพย์สินบ้านและที่ดินให้กับนายเสนาะบุตรชายแล้วประมาณ 14 ไร่ เนื่องจากกลัวจะโดนทำร้าย ส่วนที่นายังไม่ได้แบ่งให้กับลูกคนใดคาดว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งของความไม่พอใจก็เป็นได้ ต่อมาเริ่มแสดงอการก้าวร้าวทำร้ายคนในครอบครัว ตั้งแต่เมื่อ พ.ศ.2565 เป็นต้นมา โดยจะเอาปืนมาจะไล่ยิงพ่อแต่ปืนอาจติดขัดจึงใช้ปืนฟาดใส่ล้ม ต่อมาครั้งที่ 2 ได้ขับไล่ให้พ่อกับแม่ออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น จนต้องพากันไปขออาศัยอยู่กับ นางสาวธิดา แสนสามารถ บุตรสาวของตนที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ไม่ไกล
กระทั่งครั้งล่าสุด นายทองศรี ผู้พ่อกลับเข้าไปบริเวณบ้านของตนอีกครั้ง เพื่อที่จะเข้ามาเอาของใช้เพื่อการเกษตร แต่กลับถูกนายเสนาะบุตรชาย ใช้มือดึงหูทั้งสองข้างอย่างแรงจนล้มลงก่อนจะถูกบุตรชายในใส้กระทืบเข้าที่หลังอีกหลายครั้ง ทั้งนี้ตนเองก็เป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 3
บางช่วงเวลาที่นายเสนาะ อารมณ์สงบได้เคยกล่าวคนในครอบครัว อ้างว่าเพราะตนถูกพญานาคเข้าสิงจึงทำร้ายร่างกายพ่อแม่ โดยบริเวณบ้านมีรูปปั้นพญานาคพร้อมดอกไม้ธูปเทียนที่แต่งขันธ์ 5 วางบูชาอยู่แท่น และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากพญานาคไม่พอใจ ที่ไม่เชื่อและศรัทธาดังกล่าว เป็นที่น่าสังเกตดูว่าเหตุการณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเกิดอาการขึ้นทุกวันพระใหญ่ ลักษณะอาการเหมือนคนไม่มีสติ ดวงตาแดงก่ำ อาละวาดทุบตีพ่อแม่อย่างรุนแรง จนผู้เป็นแม่ถึงกับต้องก้มกราบเพื่อให้หยุดทำร้ายตนและพ่อบังเกิดเกล้า
สำหรับในครอบครัว ทุกคนต่างศรัทธาและนับถือศาสนาพุทธ ไม่เชื่อในเรื่องของพญานาค แต่ขณะที่นายเสนาะมีอาการผิดปกติก็มักบังคับให้พ่อแม่และน้องสาว ต้องกราบสักการะบูชาพญานาคที่จัดแท่นบูชาไว้
กระทั่งนายเสนาะ แสนสามารถ นับวันมีท่าทีก้าวร้าวมากขึ้น จนต้องพากันร้องขอความช่วยเหลือจากนายวัฒนา เรือระดา ผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจะเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม เพื่อแจ้งความขอให้หาวิธีช่วยเหลือครอบครัวแสนสามารถอีกช่องทาง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: