เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 ประมาณ 00.30 น.อ.กษิติ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข เขตนครพนม ได้ตรวจยึด รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลกระบะแค๊ป ยี่ห้อ TOYOTA HILUX REVO สีขาวหมายเลข
เลขทะเบียน บษ 3556 กาฬสินธุ์ จำนวน 1 คันขณะกำลังพยายามขนข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง หมู่ 5 บ้านหาดทรายเพ ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ย.66 เวลา ประมาณ 16.00 น. นาวาเอก กษิติ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข.เขตนครพนม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบนำรถยนต์ออกนอกราชอาณาจักร บริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านหาดทรายเพ ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงได้สั่งการให้ น.ต.สมเจตน์ ค้าทวี หน.สน.เรือบ้านแพงนำกำลังออกลาดตระเวนและตรวจสอบ
ข่าวจนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น.ชุดลาดตระเวนทางบก ได้เข้าซุ่มอยู่บริเวณทางเข้าสวนยางหัวบ้านหาดทรายเพ จนถึงกลางดึกวันที่ 17 ก.ย.66 เวลาประมาณเที่ยงคืน. ชุดลาดตระเวนทางบก ได้ยินเสียงเรือมาจอดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงใกล้จุดที่ซุ่มอยู่ และต่อมาก็มีชายต้องสงสัยสอง คน เดินเข้าไปในสวนยาง แล้วทำการย้ายท่อนไม้ที่ขวางทางอยู่ออก แล้วออกมานั่งรออยู่ที่บริเวณทางเข้าสวนยาง และมีรถยนต์กระบะ ใช้แผ่นพลาสติกสีดำคาดปิดไฟหน้าและไฟท้าย ขับมาจากทางกลางบ้านหาดทรายเพ เลี้ยวเข้าสวนยาง ชุดลาดตระเวนทางจึงวิ่งไล่ติดตามรถคันดังกล่าวเพื่อจะแสดงตัวและขอตรวจสอบ เมื่อคนขับรถ และชายต้องสงสัยทั้งสองคนเห็นเจ้าหน้าที่ ก็ตกใจทิ้งรถและอาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้โดยได้กระโดดลงเรือและขับข้ามไปยังฝั่งลาวทันที เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบรอบๆบริเวณบันใดทางลงแม่น้ำโขงอย่างละเอียด พบรถยนต์ กระบะแค๊ป ยี่ห้อ TOYOTA HILUX REVO
สีขาว เลขทะเบียน บษ 3556 กาฬสินธุ์ จอดอยู่ตรงบันไดปูนทางลงแม่น้ำโขง ที่บริเวณโคมไฟหน้าและไฟท้ายถูกปิดทับด้วยแผ่นพลาสติกสีดำ เพื่ออำพรางแสงไฟไม่ให้พบเห็นได้ง่ายเวลากลางคืน จากการตรวจสอบภายในรถ พบสำเนาเอกสารประจำรถแสดงการครอบครองอยู่
ภายในลิ้นชักหน้าที่นั่งด้านผู้โดยสาร จำนวน 6 แผ่น ระบุชื่อผู้ครอบครองรถคือ นายถวัลย์ ภูครองตา ที่อยู่ 65 ม.5 ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ และแผ่นป้ายภาษี ระบุเลขทะเบียนรถยนต์ ผก 6073 ร้อยเอ็ด วันสิ้นอายุ 14 ม.ค.2567 จำนวน 1 แผ่น จึงได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เข้าร่วมทำการตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าว และนำกลับไปเก็บรักษาที่ สน.เรือบ้านแพง เพื่อทำบันทึกการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และนำของกลางทั้งหมดส่ง สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
