วันที่ 14 ต.ค.66 เวลา 09.15 น. ที่ท่าอากาศยานนครพนม นายคำจันทร์ คำต้อง นางแสน คำต้อง อยู่ ม.7 ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของนายคมสัน คำต้อง อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นแรงงานไทยไปทำงานที่อิสราเอล ด้านการเกษตร อยู่ติดกับฉนวนกาซ่า ประเทศอิสราเอล พร้อมด้วยบิดาของนายวีระพล หลับจันทร์ อายุ 34 ปี ไปทำงานงานขับรถไถ ส่งน้ำ และรดน้ำต้นไม้ พักอยู่ในแคมป์คนงานเดียวกับนายคมสัน แรงงานทั้ง 2 ราย ได้เดินทางกลับนครพนม ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย โดยมีพ่อแม่ญาติพี่น้องไปให้การต้อนรับ ท่ามกลางความดีใจ น้ำตาไหลด้วยความตื้นตันใจ ในการกลับมาบ้านด้วยความปลอดภัย
นายวีระพล หลับจันทร์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่พักอยู่ในแคมป์คนงานเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ได้ถูกปาระเบิด เกือบโดนไฟเผาทั้งเป็น ถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจออกจากห้องคงโดนไฟคลอก มีทั้งหมด 16 คน หนีออกมาได้ 15 คน อีกหนึ่งคนไม่กล้าออกมา ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ในตอนที่เค้ายังไม่ปาระเบิด อยู่ใต้เตียงนอน ได้ยินเสียงระเบิด ชวนพี่ออกไปข้างนอก อย่างน้อยเป็นเป้านิ่งให้เค้ายิงไป ถ้าโดนไฟคลอก เค้าจะไม่รู้ว่าเราเป็นใคร วันที่ 7 รอบที่ 3 ประมาณ หกโมงครึ่ง ของอิสราเอล คนร้ายไม่ทราบว่ามากี่คน แต่ได้ยินเสียงคุยกันมากกว่า 3 คน มาถึงมาเคาะประตู ปาระเบิด แล้วจุดไฟ เค้าเรียกว่า ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ สวัสดีครับ ผู้รอดชีวิตกลับบ้านกันหมด 1 คน โดนกระสุนเฉี่ยวที่หัวเข่า อีกคนโดนสะโพก อีกคนโดนไฟคลอก หลังจากวันที่ 7 อยู่ในป่า ทุกคนปิดมือถือ กลัวแสงไฟโทรศัพท์ทำให้เค้าเห็น อยู่จนถึง เจ็ดโมงของวันต่อมา ไม่ได้กินข้าว กินน้ำ ช่วง 11 โมงจะมีคนมาเรียกว่ามีใครอยู่ในป่าส้มมั้ย ไม่แน่ใจว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า คิดว่าเสียงพี่ที่ทำงานด้วยกัน ทหารมารับแล้ว ทุกคนก็เลยวิ่งออกมา จากที่โดนกลุ่มฮามัสถล่ม ไม่ไปอีกแล้ว สถานการณ์ตอนนี้เป็นสถานการณ์หนัก หลายคนหนีตาย ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่า จะไปหรือไม่
ในการเดินทางกลับมาในวันนี้ได้รับการประสาน ที่อิสราเอล จะมีล่ามอาสาสมัครเป็นผู้หญิง ช่วยหลายคน มีสถานทูต ประสานงานให้ นพ.อลงกต มณีกาศ ส.ส.นครพนม ประสานงานเกี่ยวกับเที่ยวบินให้มาพร้อมท่าน
นายนพพร มานะ แรงงานจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า จ.นครพนม มีผู้ไปใช้แรงงานที่ประเทศอิสราเอล ผู้หญิงมีทั้งหมด 48 คน ผู้หญิงส่วนใหญ่ญาติอยากให้กลับมาประเทศไทย ส่วนใหญ่ไปทำการเกษตร ตัดแต่งต้นไม้ คนที่ไปทำงานอิสราเอลคนนครพนม มาถึงเมื่อวาน 2 คน วันที่ 15 อีก 12 คน ไฟล์ทบินจะแจ้งมาตลอดว่าคนงานจากอิสราเอลมาทั้งหมดกี่คน แยกเป็นนครพนม 12 คน วันที่ 15 ในเบื้องต้น วันนี้มาถึง 2 คน ความช่วยเหลือของราชการ /จังหวัด / กระทรวงแรงงาน ก่อนจะเดินทางกลับจะได้รับเงิน 15,000 บาท เงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนไปทำงานต่างประเทศ ทุกคนที่ไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะต้องสมัครเข้าร่วมกองทุน ถ้าเป็นกรณีภัยสงคราม กองทุนฯ จะจ่ายให้ 15,000 บาท ถ้าเสียชีวิต 40,000 บาท คนนครพนมยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีเสียชีวิต กรณีเสียชีวิต เป็นข่าว แรงงานนครพนมไปอิสราเอล 2,136 คน กลับมา 2 คน กลับมาเอง เป็นช่วงที่ได้สวัสดิการพักร้อน ซื้อตั๋วกลับมาเอง พักร้อน 1 เดือน อีก 1 คน ชื่อ ชาตรี ชาศรี ชาวบ้านท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม โดนยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพก พักรักษาตัวที่ รพ.บางพลี ญาติให้การดูแลอยู่
หลังจากนั้น นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ร่วมลงพื้นที่ที่บ้านของแรงงานทั้ง 2 ราย ที่บ้านดงต้อง พร้อมมอบเครื่องสาธารณูปโภคให้กับแรงงานทั้ง 2 ราย
นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม กล่าวว่า สิ่งแรกก็คือดีใจ ลูกหลานชาวนครพนม ปลอดภัยทั้ง 2 ท่าน ได้สอบถามทั้งสองคน ที่อยู่ในภาวะสงคราม ในขณะเกิดเหตุ ทั้ง 2 คน ได้มีไหวพริบในเรื่องที่จะเอาตัวรอด การที่มีสติทำให้มีชีวิตรอด สำหรับการช่วยเหลือต่อไปได้ให้สำนักงานประกันสังคม โดยแรงงานจังหวัดนครพนม ได้ดูแลในเรื่องสิทธิ์ประโยชน์ที่ได้ทำไว้ รัฐบาลไทยกับอิสราเอลทั้ง 2 ประเทศที่จะดูแล แรงงานไทยเดินทางกลับโดยการอนุเคราะห์จากรัฐบาลไทย
