เมื่อวันที่ 19 ต.ค.66 เวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านโพธิ์ตาก ม.2 ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม ไปพบครอบครัวของนายณัฐพงษ์ ปินตา อายุ 35 ปี ที่ไปใช้แรงงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอลได้ 1 ปี 4 เดือน แต่หลังจากเหตุเหตุการณ์กลุ่มฮามาส บุกกราดยิงประชาชนชาวอิสราเอลรวมถึงแรงงานไทยในอิสราเอล ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายพันคน ทั้งนี้ยังมีแรงงานไทยเสียชีวิตแล้วในขณะนี้ 30 คน บาดเจ็บ 16 คน รวมทั้งถูกจับควบคุมเป็นตัวประกันอีก 17 คน ส่วนนางไกรษร น้อยเหล็กดี อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายของนายณัฐพงษ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกเขยไปทำงานสวนผลไม้ อยู่แคมป์คนงานด้วยกัน 19 คน รอด 3 คน เพราะออกไปข้างนอก ตนมีมีความกังวลห่วงลูกเขย ถ้ายังมีชีวิตอยู่อยากให้ติดต่อกลับมา ปกติติดต่อกันทางเฟสเกือบทุกวัน วันเกิดเหตุเวลา 11 โมงเช้ายังติดต่อคุยกับภรรยาได้อยู่บอกว่ากำลังวิ่งเพื่อหาที่กำบังอยู่ แต่จู่ ๆ สัญญาณโทรศัพท์ก็ได้หายไป ติดต่อกันไม่ได้เลยตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ ทำให้ยิ่งเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น
นายณัฐพงษ์ ปินตาหรือ นิค จำนวน 1ใน 17 คน ที่กลุ่มกองกำลังฮามาสได้จับควบคุมเป็นตัวประกันตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66 จนถึงวันนี้กว่า 2 สัปดาห์แล้ว จนขณะนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร จากการที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางสาวนริศรา จันทะแสงหรือน้องแพน อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นภรรยา เล่าให้ฟังว่าตนนั้นได้แต่งงานกับนายณัฐพงษ์ มา 10 มีบุตรชายด้วยกัน 1 คน คือน้องใบเบิ้ล อายุ 8 ขวบ
ทุกวันนี้ไม่ข่าวความคืบหน้าของสามีจากทางการใดๆ จึงยังไม่รู้ชะตากรรมของผู้เป็นสามี ตนทำได้แต่เพียงรอความหวังว่าจะมีปฏิหารย์มีจริงและสวดภาวนาขอให้สามีปลอดภัยทุกคืน แต่ละคืนที่ผ่านมาตนรู้สึกทรมานจิตใจมาก ทุกวันนี้ก็นอนไม่หลับ ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลแล้วทุกวันนี้
ส่วนภาระที่ยังต้องหนักใจอยู่ในขณะนี้และทุกข์ใจมากคือเรื่องหนี้ ธกส.ที่กู้ยืมมาหลายแสนบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการไปทำงานที่อิสราเอล เพราะครอบครัวคาดหวัง นายณัฐพงษ์ คือเสาหลักของครอบครัว ไปทำงานเพื่อมาช่วยแก้ปัญหาหนี้สินต่างๆ ทั้งค่างวดรถ จ่ายหนี้ ธกส.ที่กู้ยืม รวมถึงค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว ส่วนตนนั้นไม่มีอาชีพเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก
อยากให้หน่วยงานช่วยติดตามหาสามีให้ไม่ว่าจะตายหรือยังมีชีวิต ตนก็พร้อมยอมรับเพียงขอให้รู้ความจริงเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะฝากข้อความอะไรถึงสามีว่าอะไร หากสามีเห็นจากข่าวนี้ นางสาวนริศรา จันทะแสงหรือน้องแพน จึงอยากขอบอกว่าตอนนี้ ตนและลูกมีความห่วงใยและคิดถึง อยากให้สามีรู้ว่าตนนั้นรักสามีมาก อยากให้กลับมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวที่อบอุ่น และถ้าหากกลับมาจะไม่ให้ไปทำงานที่อิสราเอลแล้ว นางสาวนริศรา กล่าวด้วยความเศร้าพร้อมน้ำตาคลอด้วยความรัก ความคิดถึง และสงสารสามีมากที่ตกระกำลำบากอยู่ที่อิสราเอลในเวลานี้
