X

น้ำตาท่วมบ้าน! ช็อกลูกเสียชีวิตแล้ว เผยลูกแพลนสร้างบ้านใหม่ให้ต้องล้มเลิก 

วันที่ 21 ต.ค.2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 189 บ.หนองท่ม ม.8 ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนางโสดา  แต้มกลาง อายุ 74 ปี แม่นายปริญญา แต้มกลาง หรือ เป้ อายุ 40 ปี หนึ่งในแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานยังในอิสราเอล ภายหลังที่ทราบว่านายปริญญา ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบระหว่างกองกำลังฮามาสกับทหารอิสราเอลแล้ว โดยมีทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.โพนสวรรค์ และ รพ.โพนสวรรค์ มาคอยเยียวยาสภาพจิตใจอยู่อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

นางโสดา แม่ของนายปริญญา เปิดเผยว่า ลูกชายไปทำงานเกษตรที่เมืองโมชาฟ อยู่ในบริเวณพื้นที่สีแดงห่างจากจุดที่มีการสู้รบกันระหว่างกองกำลังฮามาสกับทหารอิสราเอล ออกไปราว ๆ 5 กิโลเมตร   ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ช่วงเวลา 10 โมงเช้า ตนได้ติดต่อกับลูกชายครั้งสุดท้าย ซึ่งพูดคุยได้ไม่นานสัญญาณโทรศัพท์ได้ขาดหาย แต่เมื่อพยายามติดต่อไปใหม่ก็ไร้สัญญาณ ทำให้รู้สึกเอะใจและลองให้ลูกสาวพยายามวีดีโอคอลติดต่อกลับอีกหลายครั้งก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย

แม่ของนายปริญญา หนุ่มแรงงานไทย กล่าวทั้งน้ำตาว่า  ระหว่างที่วิดีโอคอลคุยกับน้องสาวนายปริญญาอยู่นั้น ปริญญาได้แต่บอกว่าตอนนี้เขากำลังสู้รบกันแล้ว ซึ่งตนก็นึกว่าเป็นการสู้รบกันธรรมดา แต่คราวนี้ลูกชายบอกว่าคราวนี้ค่อนข้างร้ายแรงกว่าทุกปี หลังจากนั้นการติดต่อก็ขาดหายไปดีจนถึงทุกวันนี้รวม 15 วัน โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่เคยบอกความคืบหน้าว่าลูกชายยังมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตแล้ว  เพียงบอกว่ายังติดต่อหรือติดตามตัวลูกชายยังไม่ได้

แม้ว่าก่อนหน้านี้เคยมีเพื่อนลูกชายรวมถึงเพื่อน ๆ ที่อยู่ในแคมป์เดียวกันกับลูกชาย ต่างได้วิดีโอคอลมาแจ้งว่าขณะนี้ได้สูญเสียนายปริญญาจากเหตุการณ์ไม่สงบแล้วเพราะไม่อยากให้ตนและน้องสาวกังวลและคิดมากไปกว่านี้

นางอุมาพร แต้มกลาง น้องสาวนายปริญญา กล่าวว่า พี่ชายของตนที่เสียชีวิตนั้นเป็นเสาหลักสำคัญคนหนึ่งของครอบครัว แม้ว่ายังไม่มีครอบครัว แต่จะส่งเงินให้แม่เดือนละ 40,000 บาทเป็นประจำทุกเดือน โดยพี่ชายได้ขอแยกเงินเพื่อใช้จ่ายส่วนตัวต่างหากเดือนละ 3,000-5,000 บาทเท่านั้น  นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สำหรับเป็นค่าทำเรื่องและค่าเดินทางไปทำงานต่างๆ นายปริญญาก็เก็บเงินไปเองโดยไม่ได้กู้หนี้ยืมสินแต่อย่างใด   นางอุมาพร กล่าวต่อว่า เดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ก็จะครบการไปทำงาน 2 ปีแล้ว พี่ชายตั้งใจทำงานส่งเงินมาให้แม่ เพราะมีแผนตั้งใจจะสร้างบ้านใหม่ โดยเงินที่ส่งมาได้รวบรวมจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ก่อสร้างเพื่อเตรียมมามุงโครงหลังคาบ้านหลังใหม่ในที่ดินพ่อ โดยสั่งซื้อเสาบ้าน เตรียมมิเตอร์น้ำไฟฟ้าพร้อมขอบ้านเลขที่ใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดนี้ขึ้น หลังทราบข่าวการสูญเสียลูกชายอันเป็นเสาหลักนี้ไป ตอนนี้ตนจึงเลิกล้มโครงการในฝันของลูกชายทั้งหมดไว้ก่อน

แต่อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นไปแล้วก็ขอฝากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยนำร่างของ นายปริญญาแต้มกลาง กลับสู่มาตุภูมิเพื่อญาติพี่น้องจะได้ประกอบพีธีบำเพ็ญกุศลตามศาสนากันต่อไป.

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน