วันที่ 24 ต.ค.2566 ที่ท่าอากาศยานนครพนม น.ส.มินตรา อินทสา อายุ 40 ปี พร้อมลูกสาว 2 คน ญาติพี่น้อง แรงงานจังหวัด จัดหางาน และ พมจ. เดินทางมารับนายสุพล สุระโส อายุ 45 ปี หนึ่งในแรงงานไทยไปทำงานในอิสราเอล ถูกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ยิงระเบิดอาร์พีจีโจมตีโรงงานฟาร์มไก่ ได้รับบาดเจ็บ
นายสุพล เล่าให้ฟังว่า ไปทำงานที่อิสราเอลเป็นหัวหน้าคนงานในฟาร์มไก่ ย่านโมชาฟชุมชนเกษตรตอนเหนือติดกับเลบานอนนาน 7 ปี จุดที่ตนทำงานอยู่ห่างรั้วชายแดนราวๆ 200 เมตรเป็นพื้นที่สีแดง วันเกิดเหตุวันที่ 21 ต.ค. กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ใช้อาวุธหนักยิงใส่โรงงานฟาร์มไก่ วันเกิดเหตุ
เวลาประมาณบ่ายสอง ขณะที่ตนยืนคุมคนงาน 20 คนเก็บไข่ไก่ กลุ่มก่อการร้ายยิงจรวดอาพีจีระดมใส่โรงงาน ทะลุลงลังคาลงกลางหัวของพวกตนเลย จึงพากันวิ่งหนีตายพร้อมลูกน้อง ตนเองเลยถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บหัวไหล่ขวา ส่วนน้องคนงานอีกคนถูกสะเก็ดที่หน้าอกลึกเป็นแผลฉกรรจ์ วันนั้นถ้าจรวดลงใส่จุดที่มีคนงานไทยประมาณ 17-18 คนกำลังขนไข่ คงได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้
วันที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงระดมใส่เสาอากาศของยูเอ็น นายจ้างก็บังคับให้ไปทำงาน แต่พอเข้าไปทำงานได้ 15 นาที ระเบิดลงเสียงดังตูม สนั่น ระเบิดตกในพื้นที่โรงงานหลายลูกจนมึนงงไปหมด สักพักพอตั้งสติได้จึงตะโกนถามลูกน้องว่ามีใครบาดเจ็บหรือไม่ ก็เห็นน้องคนเจ็บกุมหน้าอกวิ่งออกมา
พอเปิดดูแล้วแผลกว้างแต่ไม่ลึก จึงรีบโทรศัพท์หานายจ้างทันทีแต่กว่านายจ้างจะมาก็นานมากเพราะโรงงานตั้งอยู่นอกโมชาฟ หบังจากนั้นพวกตนก็รีบนำตัวคนเจ็บขึ้นรถส่งรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง ทันที ก่อนจะแจ้งให้สถานทูตไทยในอิสราเอลทราบ ส่วนตนก็รักษาที่โรงพยาบาลอิสราเอล 1 วัน
วันที่จะกลับเมืองไทยก็ซื้อตั๋วเครื่องบินเอง โดยตน เห็นกลุ่มก่อการร้ายยิงคนทิ้งกลางถนนวันละ 4-5 คนหน้าโรงงาน คนไทยในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตเยอะมากขั้นต่ำน่าจะมี 50 คน แต่มีการออกข่าวพอประมาณ หม่ให้ตกใจพอลงเครื่องถึงสนามบินพบเห็นหน้าเมียและลูกสาว 2 คน ก็ดีใจจนลูกสาวคนโตวิ่งสวมกอดหอมแก้มที่รอดชีวิตกลับมาได้ จากนี้ไปคงไม่ไปทำงานต่างประเทศอีกแล้ว ขออยู่กับลูกเมียทำงานที่เมืองไทยดีกว่า
