วันที่ 3 ธ.ค.66 ร.ต.อ.บำรุง พันโนราช รอง สว.(ป้องกันและปราบปราม) สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้ง จากนายเฉลียว นาทราย ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ้านเนินสะอาด ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ว่า มีพระลูกวัดศรีบุญเรือง กำลังอาละวาดทำลายข้าวของอยู่ที่ภายในวัด จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและระงับเหตุ จากการสอบถามทราบชื่อภายหลัง คือ พระอุทัยฯ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดที่เพิ่งขอเข้ามาจำวัดที่นี่ได้เพียง 10วัน
นางใจ ขอสงวนนามสกุล อายุ 54 ปี เป็นน้องสาวของพระอุทัย เล่าว่าเดิมทีนั้นตนไม่อยากให้พี่ชายบวชพระ แต่ไม่อาจขัดใจญาติพี่น้อง ซึ่งส่วนใหญ่ต่างต้องการให้พระอุทัยบวช โดยบรรพชาอุปสมบทที่วัดบ้านดอนโมง ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ก่อนเดินทางไปจำพรรษายังวัดหนึ่งที จ.อุบลราชธานี เป็นเวลา 3 พรรษา
จากนั้นได้ย้อนกลับมาขอจำพรรษาที่วัดบ้านดอนโมงฯอีกครั้ง แต่ไม่สามารถจำวัดได้เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยเหมาะสมกับสมณเพศ จนต้องมาขอจำวัดยังวัดศรีบุญเรือง ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม โดยมีพระอธิการใจ ขันธรรมโม เป็นเจ้าอาวาส แต่ย้ายมาจำวัดได้เพียง 10 วัน พระอุทัยฯ ก็เกิดพฤติกรรมแปลกๆไม่หลับนอนเอาแต่เดินไปมารอบๆวัดตลอดทั้งคืน ก่อนที่จะทำลายข้าวของภายในวัด รวมถึงข้าวของที่ญาติโยมนำมาถวาย นอกจากนั้นรื้อขนทำลายข้าวของภายในวัดมาเผาทำลาย เช่น จีวรพระ ไม้กวาด ป้ายวัด กำแพงวัด สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวได้ลองสอบถาม พระอุทัยฯ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุว่าบวชเป็นพระมากี่พรรษาแล้ว ตอบกลับเพียงมาว่า ตนไม่ใช่พระแต่เป็นเณร มีลักษณะอาการพูดจา วกวน ไม่รู้เรื่อง จากการตรวจค้นภายในกุฎิและย่ามของพระอุทัยฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือยาเสพติดใดๆ ก่อนจะได้นำตัวส่งโรงพยาบาลจิตเวชราชนครินทร์นครพนม เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามหากผลการตรวจออกมาเช่นไร ทางญาติก็คงให้สึกลาสิกขา เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดมีอาการดังกล่าวนี้ขึ้นได้อีก
