สาสุขฯ นครพนม เปิดโครงการ มินิธัญญารักษ์ เพื่อฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด พบผู้เสพรายใหม่เพิ่มขึ้นอื้อ เล็งขยายเพิ่มอีกสองแห่งในปีนี้
ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อสังคมไทยเป็นอย่างมาก ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วม ดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพ เน้นการเข้าถึงบริการบำบัดรักษา ตั้งแต่ระยะแรก เพื่อลดผลกระทบจากการใช้ยาเสพติด ภาวะแทรกซ้อนทางจิตเวช รวมทั้งลดอันตราย และลดความรุนแรงจากการใช้ยาเสพติด ในขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายยกระดับสถานบริการบำบัดรักษายาเสพติด ให้สามารถดูแลผู้เสพ ติด ในภาวะวิกฤติฉุกเฉินก่อนการส่งต่อ เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ ผู้ติดยาเสพติดในสถานพยาบาล และการติดตามอย่างต่อเนื่องหลังการบำบัด โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามดูอาการภายใน 1 ปี เริ่มสัปดาห์แรก 1 ครั้ง สัปดาห์ที่ 2 อีก 1 ครั้ง และจะดูอาการ 1 เดือน 3 เดือน 9 เดือน และ 1 ปี
จากปัญหาและความสำคัญดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม จึงได้จัดตั้งโครงการ มินิธัญญารักษ์ขึ้น เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการ ในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดที่มีความซับซ้อน และรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการจัดตั้งมินิธัญญารักษ์ แล้วจำนวน 3 แห่ง ประด้วย มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม, มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลโพนสวรรค์ และ มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลนา พร้อมกับเตรียมเปิดอีก 2 แห่ง ในเดือนเมษายน 2567 นี้ได้แก่ มินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลศรีสงคราม และมินิธัญญารักษ์ โรงพยาบาลเรณูนคร โดยผู้เข้ารับการบำบัดจะต้องใช้เลา รวมทั้งสิ้น 30 วัน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ใช้และผู้เสพยาเสพติด ที่ไม่มีอาการทางจิต หรืออาการทางจิตคงที่
และที่บ้านตะวันทอแสง หรือ “มินิธัญญารักษ์”โรงพยาบาลโพนสวรรค์ สถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม นางสาวแสงเดือน ศรีวรสาร หัวหน้ากลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดโรงพยาบาลโพนสวรรค์ ผู้ดูแลบ้านตะวันทอแสง
ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ที่นี่ จะมีผู้เสพยาทั้งสมัครใจและถูกจับเข้ามาบำบัด บางรายเข้ามาบำบัดซ้ำ เองจาก ครั้งแรกหลบหนีออกไป และเสพยาใหม่ก่อนจะถูกจับส่งเข้ามาบำบัดต่อ บางรายบำบัดครบแล้ว 30 วัน พอได้ออกไป เจอสิ่งแวดล้อมเดิมๆกลายเป็นคนก้าวร้าวเอะอะโวยวายหันไปเสพยาอีก ก็ถูกจับส่งเข้ามาบำบัดอีกครั้ง ขณะนี้มีมีเข้ารับการำบักรวม 12 คน
โดยส่วนใหญ่ที่เข้ามารับการบำบัดจะเสพยาบ้า รองลงมาก็จะเป็นกัญชา บางคนจะมีอาการทางจิต หูแว่ว ภาพหลอน บ่นอยู่คนเดียว ซึ่งข้นตอนการบำบัดหรือรักษาผู้ป่วยจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการก่อนประมาณ 5-7 วัน ถ้ามีอการหนักจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลจิตเวชนครพนม ถ้าอาการไม่หนัก กะให้เข้ามาอยู่ ในโครงการมินิธัญญารักษ์ ซึ่งเมื่อเข้าสู่โปรแกรมแล้ว จะใช้เวลาบำบัดประมาณ 28-30 วัน
สำหรับกิจกรรมที่อยู่ บ้านตะวันทอแสง มินิธัญญารักษ์ มุ่งเน้นให้ผู้เข้ามาบำบัดผ่อนคลาย จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน โดยจะให้ทุกคนตื่นนอนตี 5 ทำธุระส่วนตัวเสร็จ จัดเวรเก็บกวาดทำความสะอาดที่พัก ห้องน้ำ ส่วนห้องนอนเป็นจะโล่ง เตียงนอนเรียงแถวเป็นระเบียบ ส่งเสริมให้ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา ทานข้าวพร้อมกัน ทำกิจกรรมทางวิชาการ เป็นกลุ่ม แลกเปลี่ยนความคิด ประเมินอาการของตัวเอง กิจกรรมสันทนาการ ร้องเพลง เล่นกีฬา เช่น ปิงปอง ฟุตบอล ตะกร้อ และ แบดมินตัน สลับหมุนเวียนกันไป และก่อนจะเข้านอนในเวลา 19.30 น.ผู้ดูแล จะนำสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ จนถึงเวลาประมาณ 20.00 น.ก็จะส่งทุกคนเข้านอน ถือเป็นกิจวัตรประจำวัน
โดยจากข้อมูลผู้ป่วยยาเสพติดจังหวัดนครพนม ที่เข้าสู่ระบบบำบัดรักษา พบสัดส่วนผู้เสพรายใหม่ถึง ร้อยละ 70.34 ซึ่งยังไม่นับรวมผู้เสพอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา หลบซ่อน ไม่แสดงตัว จนเกิดการเสพติดซ้ำ ส่งผลต่ออาการทางจิตเวชจากการเสพยาเสพติดที่ปรากฎเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ มากขึ้นทุกวัน
