นครพนม : ไม่พอใจส่องไฟใส่หน้า คว้าปืนแก๊ปยิงแสกหน้า ตำรวจรวบทันควัน อ้างถูกส่องไฟฉายใส่หน้าหาเรื่องก่อน
เมื่อเวลา 20.10 น. วันที่ 12 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.สิทธิพล วงศ์นิโลบล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับจังเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บ ที่บ้านหนองปลาดุก ม.18 ต.บ้านผึ้ง จึงรายงาน พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม รุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูง พบคราบเลือดหยดอยู่ภายในบ้านพัก ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายอภินันท์ เอี่ยมจันทร์ อายุ 35 ปี อาชีพเป็นพนักงานขายปุ๋ยยี่ห้อหนึ่ง ถูกยิงที่ใบหน้าด้วยปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ มีบาดแผลที่จมูก คิ้วขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.นครพนม
ส่วนคนร้ายผู้ก่อเหตุคือนายขุนหาญ จันทร์แสง อายุ 35 ปี มีอาชีพเป็นกรรมกรก่อสร้าง ซึ่งมีบ้านอยุติดกันกับบ้านของนายอภินันท์ โดยหลังก่อเหตุนายขุนหาญ ได้วิ่งหลบหนีไปที่กระต๊อบปลายนา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงกระจายกำลังไล่ล่าติดตามจับกุมตัว ได้ในที่สุด ก่อนควบคุมตัวนายขุนหาญ มาตรวจค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุในบ้านพัก แล้วตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
นางทองหลาง ลำไพ อายุ 59 ปี แม่ยายนายอภินันท์ คนเจ็บกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายอภินันท์ ลูกเขย กำลังเปิดประตูหน้าบ้านเพื่อจะไปฉี่ในห้องน้ำที่อยู่นอกตัวบ้าน จู่ๆสุนัข 2 ตัวที่เลี้ยงไว้ได้ส่งเสียงเห่าขึ้นมา หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนจึงลุกขึ้นมาดู พบลูกเขยถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ยืนเกาะประตู โดยมี เลือดไหลนองเต็มหน้า เมื่อเห็นดังนั้นตน จึงตะโกนต่อว่านายขุนหาญว่ายิงลูกเขยตน ทำไม มือปืนบอกว่ายิงเฉยๆ ด้วยความตกใจ ตนจึงรีบวิ่งไปบอกญาติให้รีบนำรถยนต์กระบะ มานำตัวลูกเขยส่งรักษาที่ รพ.นครพนม ก่อนจะแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
โดย สาเหตุเบื้องต้นนางทองหลางกล่าวว่า เรื่องน่าจะมาจากที่นายขุนหาญ มือปืน ได้ยินเสียงสุนัขที่บ้านเห่าเสียงดัง ขณะที่นายอภินันท์ลูกเขยกำลังจะเปิดประตูไปเข้าห้องน้ำ และใช้ไฟฉายส่องไปโดนหน้า นายขุนหาญ ทำให้นายขุนหาญไม่พอใจที่ส่องไฟใส่หน้าตนเอง จึงตะโกนถามว่าส่องไฟหาเรื่องเหรอ ตนได้ยินลูกเขยตอบไปว่า ไม่รู้สุนัขเห่าใครจึงใช้ไฟฉายส่อง หลังจากนั้นนายขุนก็คว้าอาวุธปืนแก๊ปยิงใส่นายอภินันท์ จนไดัรับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายขุนหาญมือปืนไปสอบสวนสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง พร้อมนำตัวไปตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด และควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
