ตำรวจนครพนม ส่งมอบหลักฐานในคดี การหายตัวของเสี่ยบ่อนไก่ พร้อมรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ให้สภ. นาสักดำเนินการต่อแล้ว
จากกรณีตำรวจทางหลวง พบรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 3424 ชุมพร ขับมาจอดซุกป่า ยางข้างศูนย์พัฒนาที่ดินจังหวัดนครพนม บริเวณบ้านดงโชค หมู่ 6 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม หลังผู้ครอบครองรถ แจ้งความรถและสามีหายตัวไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 โดยมีการพบรถจอดซุกบริเวณดังกล่าวเมื่อ วันที่ 4 ก.พ.67 เวลาประมาณ 17.30 น.โดยก่อนหน้าพบว่ามีครูสาวสอนเด็กอนุบาลของโรงเรียนแห่งหนึ่งพร้อมเพื่อนสาวที่เป็นช่างเสริมสวย ขับรถคันดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพบรถคันดังกล่าวมาจอดซุกไว้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งรถคันดังกล่าวนางวันเพ็ญ หรือ เจ๊อ้วนอายุ 66 ภรรยาของนายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี เสี่ยเจ้าของบ่อนไก่ที่ อ.สวี จ.ชุมพร ได้แจ้งความหายไว้ที่ สภ.นาสักจังหวัดชุมพรพร้อมกับเสี่ยหมาด สามีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 และมาโผล่ที่ชายแดนจังหวัดนครพนม สร้างความสงสัยให้ผู้คนว่าเพราะเหตุใดรถจึงถูกลำเลียงมาที่นี่ และตัวเสี่ยหมาด เองหายตัวไปไหน โดยอาจเป็นการฆาตกรรมเสี่ยหมาดแล้วนำรถส่งขายให้ขบวนการค้ารถข้ามชาติที่จังหวัดนครพนม เพื่อส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งชุดคลี่คลายคดีนี้กำลังทำงานอย่างหนักในการหาหลักฐานเพื่อติดตามตัวเสี่ยหมาดกุญแจดอกสำคัญที่จะสาวถึงผู้ร่วมขบวนการในคดีนี้
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต. ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภจว.นครพนมได้เปิดเผยเกี่ยวกับคดีนี้ว่าเบื้องต้นทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครพนมได้นำรถคันดังกล่าวมาตรวจพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียดพบว่ามีวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 28 รายการซึ่งได้ทำบันทึกและเก็บรักษาไว้ และล่าสุดทางชุดสืบสวนของ สภ.นาสักได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนของสภ.เมืองนครพนมเพื่อขอรับรถและพยานหลักฐานในคดีนี้ทั้งหมดเพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีที่ สภ.นาสักต่อไป ส่วนข่าวที่มีการออกหมายจับชาวนครพนมที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้สองรายนั้นตนยังไม่ทราบรายละเอียดซึ่งตนจะสอบถามไปยังพนักงานสอบสวนสภ.นครพนมว่าจนถึงปัจจุบันทางพนักงานสอบสวน สภ.นาสักขอความร่วมมืออะไรมาบ้างเนื่องจากอำนาจการสอบสวนในคดีนี้เป็นของพนักงานสอบสวน สภ.นาสัก ซึ่งถึงแม้จะมีการพบรถในพื้นที่นครพนมแต่ทางเรามีหน้าที่เพียงสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ แล้วส่งต่อให้พนักงานสอบสวน สภ.นาสักดำเนินการต่ออีกทีหนึ่งส่วนจะแจ้งข้อกล่าวหาผู้ใดนั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนนาสัก เจ้าของคดี
ส่วนครูสาวสอนเด็กอนุบาลที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอโพนสวรรค์ หลังจากหลบหน้าผู้สื่อข่าวที่ได้ติดตามไปขอพบหลังมีการเผยแพร่ภาพจากกล้อง วงจรปิดว่าได้ขับรถคันดังกล่าวไปกับเพื่อนสาวที่เป็นช่างเสริมสวยที่เปิดร้านอยู่ใกล้บ้าน ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะถูกนำไปจอดซุกไว้ในป่าข้างสำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดนครพนม จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบ โดยหลังจากเรื่องซาลง ครูสาวก็กลับมาสอนหนังสือเด็กตามปกติแล้ว โดยตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้น ๆ ว่าตนได้ให้การข้อเท็จจริงต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ไปกับตำรวจจนหมดแล้ว และไม่ขอพูดอะไรอีก ขอให้สื่อมวลชนอย่า มารบกวนความเป็นส่วนตัวของตนอีกต่อไปเลย
