นครพนม : ลูกทรพี ทาสยาบ้า ทำร้ายแม่ พร้อมขู่เผาบ้าน ผญบ. สุดเอือมระอาพฤติกรรมนำกำลัง อส.บุกรวบตัวนำไปบำบัด
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567เวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ บุญจันทร์นายอำเภอเมืองนครพนม ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหนองจันทร์ หมู่ 14 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ว่ามีชายหลอนยาบ้า อาละวาดทำร้ายมารดา จึง สั่งการใหันายประชุมศิลป์ พิทักษ์ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง นายจักรพล เที่ยงภักดิ์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคงและสมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดน อำเภอเมืองนครพนมที่ 3 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและระงับเหตุ ทันที เมื่อไปถึงบ้านเกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง ก็พบนายยุทธศักดิ์ ศรีประจักร์ หรือ ยุทธ กำลังเดินวนเวียนไปมารอบๆ บริเวณบ้าน พร้อมพูดจาวกวนตลอดเวลา โดย เบื้องต้น นายยุทธ รับสารภาพว่าอาละวาดทำลายข้าวของภายในบ้าน และทำร้ายร่างกายมารดาจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายยุทธ ไว้และนำตัวไปตรวจ ปัสสาวะผลตรวจพบเป็นบวกปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงนำตัวมาสอบสวนที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองนครนครพนมที่ 3 เพื่อสอบสวนทำทะเบียนประวัติพร้อมกับเตรียมส่งตัวเข้ารับการบำบัดทันที
นางเฟื่องฟ้า แม่ของนายยุทธ เล่าให้ฟังว่า ตนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวร่วมกับนายยุทธ ที่เป็นลูกชายพร้อมกับภรรยาและลูกของนายยุทธ อีกสามคน หลังจากที่สามีตนเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะลูกชายเสพยาบ้าโดยเสพติดต่อกันมาเป็นเวลานานแล้ว พอเมายา ก็จะอาละวาดทุบทำลายข้าวของภายในบ้าน ทำร้ายร่างกายลูกๆ และ หาเรื่องตนซึ่งเป็นแม่แท้ ๆ ตลอด และขู่จะเผาบ้าน แต่จะไม่ไปหาเรื่องบ้านใกล้เรือนเคียง
ตอนนี้ก็ห่วงลูกไม่อยากให้เสพยา ถ้าวันไหนไม่ได้เสพยาลูกจะเป็นคนดี เช้ามาก็ไปทำงาน โดยมีอาชีพรับจ้างทั่วไป อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยนำตัวไปบำบัด และฝากเจ้าหน้าที่ปราบปราม ยาเสพติดให้ได้ผลอย่างจริงจัง
ด้านนางสาวพรรณทิพา ภรรยา นายยุทธ กล่าวว่าสาเหตุ ที่เป็นเช่นนี้นั้นเกิดจากการนายยุทธ เกิดอาการหลอนยา มีความรู้สึกว่าจะมีคนมาทำร้ายตลอดเวลา และมักจะโทษแม่ว่า ทำให้ลูกเมียไม่ถูกกัน เงินที่หามาได้เอาให้แม่ใช้แต่ เข้าใจว่าแม่เอาเงินไปให้น้องชาย เลยเกิดความน้อยใจ จนเกิดอาการคุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายทุบตีคนภายในบ้าน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายยุทธ ว่าทำร้ายร่างกายแม่ทำไม นายยุทธศักดิ์ตอบกลับว่า ไม่ได้ทำร้ายแค่โวยวาย ไม่พอใจที่แม่เอาเงินไปให้คนอื่นใช้ เงินของตนให้แม่ แต่แม่กลับเอาไปให้อื่น ตนจึงไม่พอใจ หากได้กลับ ไปที่บ้านอีก ตนจะไล่แม่ออกจากบ้าน เพราะบ้านหลังนี้พ่อได้ยกให้ตนก่อนจะเสียชีวิตแล้ว นายยุทธ กล่าวอย่างมีอารมณ์ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่นำตัวเข้าสถานบำบัดผู้ติดยาเสพติดทันที
โดยทางอำเภอเมืองนครพนม ได้จัดตั้งค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม “บ้านพักใจ” อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ขึ้นมา เพื่อเป็นสถานที่รองรับผู้เสพยาเสพติดที่คลุ้มคลั่ง อาละวาด เป็นภัยต่อสังคม และ เพื่อเป็นการนำเอาปัญหาออกจากพื้นที่ แล้ว เอามาแก้ไขที่อำเภอ โดยการให้อยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่ ตลอดเวลา การจัดตั้งค่ายดังกล่าว อำเภอเมืองนครพนมได้ดำเนินการควบคู่ไปกับโรงพยาบาลนครพนม โดยอำเภอเมืองนครพนม จะทำหน้าที่กำกับ ดูแล สร้างระเบียบวินัย ให้เป็นบุคคลที่มีความพร้อมทั้งในด้านร่างกาย วาจา และจิตใจ ขัดเกลาสมาธิ สติปัญญา ให้มีสตินึกคิด โดยมี สมาชิก อส.อ.เมืองนครพนม ที่ 3 ปฏิบัติหน้าที่เป็นครูเวรในแต่ละวัน และ นำตัวเข้ารับการบำบัดรักษาตามระบบสมัครใจบำบัด หรือ ระบบ เมทริกซ์โปรแกรม กับทางโรงพยาบาลนครพนม โดยมีระยะเวลาในการบำบัดรักษาต่อคน จำนวน 2 เดือน
และ เมื่อหลังจากผ่านการบำบัดไปแล้ว 2 เดือน อำเภอเมืองนครพนมได้ติดตามผู้ผ่านการบำบัด หากยังกลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก อำเภอเมืองนครพนมก็จะนำตัวกลับมาเพื่อดำเนินการให้เข้ารับการบำบัดอีกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในพื้นที่ต่อไป
โดย ประชาชน และผู้นำชุมชน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สามารถประสานมายังอำเภอเมืองนครพนม ว่ามีผู้เสพยาเสพติดคลุ้มคลั่งอาละวาด เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยทาง อำเภอเมืองนครพนมจะมีชุดเคลื่อนที่เร็วออกไประงับเหตุ และ ควบคุมตัว เพื่อนำตัวบุคคลที่มีปัญหาออกจากพื้นที่และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวมาปรับทัศนคติ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ให้เป็นบุคคลที่เข้มแข็งทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ และ ปลูกฝังเเนวคิด จิตสำนึกใหม่ ให้สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้อย่างปกติสุขต่อไป
