วันที่ 14 เมษายน 67 ที่วัดไตรภูมิ อ.ท่าอุเทน จังหวัดนครพนม นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นายปรีชา สะอิ้งทอง นายอำเภอท่าอุเทน มาเป็นประธานในวันเทศกาลวันสงกรานต์ปีใหม่ไทยเพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของพี่น้องชาวอำเภอท่าอุเทน ประจำปี 67 ระหว่างวันที่ 13 -15 เมษายน 67 โดยมีนายกานต์ แก้วมาตย์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าอุเทนกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ในการจัดงาน
ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่ชาวอำเภอท่าอุเทน หัวหน้าส่วนราชการพี่น้องประชาชน ได้อัญเชิญพระบาง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองออกมาให้ประชาชนได้สรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลสงกรานค์ปีใหม่ไทย โดยได้อัญเชิญพระบางออกจากหอ ที่วัดไตรภูมิ ในเขตเทศบาลตำบลท่าอุเทนโดยในช่วงเช้าได้มีการทำบุฐตักบาตร การบวงสรวงองค์พระบาง และจะได้แห่องค์พระบางและเกจิอาจารย์ของชาวท่าอุเทนรอบเมืองรวมถึงการสรงน้ำองค์พระธาตุท่าอุเทนต่อไป
พระบาง เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร พุทธศิลปแบบลาว สูง 80 นิ้ว แท่นสูง 2 นิ้วครึ่ง ฐานรูป 8 เหลี่ยม สูง 15 นิ้ว และฐานตั้งอยู่บนช้าง 8 เชือก สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2008 เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เชื่อกันว่าถ้านำออกมาแห่จะทำให้ฝนตก ประชาชนที่สนใจจะเข้าไปนมัสการต้องขออนุญาตจากเจ้าอาวาสก่อน
พระบางวัดไตรภูมิ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เป็นพระพุทธรูปยืน ปางห้ามสมุทร สูง 80 นิ้ว ประดิษฐานอยู่บนฐานรูปแปดเหลี่ยม สูง 15 นิ้วรองรับด้วยรูปช้าง 8 เชือก องค์พระหล่อด้วยโลหะหลายชนิดที่หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น ทอง นาค เงิน ทองคำขาว และทองแดง เป็นต้น ที่รัดประคต(สายรัดเอว) มีนิลฝังอยู่เป็นระยะ ๆ ที่พระนาภีมีเพชรขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 นิ้วฝังอยู่ (ปัจจุบันหายไป) องค์พระและฐานสร้างเป็นส่วนแยกออกจากกันได้ สามารถถอดออกได้ เป็น 5 ชิ้น คือ พระรัศมี พระเศียร พระหัตถ์ซ้าย-ขวา ลำตัว และฐานแปดเหลี่ยมรอบฐานของพระบางวัดไตรภูมินี้มีจารึกด้วยอักษรลาวเก่า(ไทน้อย)อ่านได้ความว่า” สมเด็จพระเหมะ วันทา กับทั้ง อัง เต วา สิ อุบาสก อุบาสิกา ได้ร่วมแรง ร่วมใจกันสร้างพระนี้ขึ้นมา มีขนาดเท่าตัวคน เพื่อให้ไว้ เป็นที่ สักการะ บูชา เมื่อ ปี พ.ศ. 2008 ตรงกับปีวอก เดือน 3 ขึ้น 9 ค่ำ วันศุกร์”ตามประวัติแล้ว พระบางวัดไตรภูมิมาจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง จากวัดบ้านคก แขวงคำเกิดขอให้เราคิดถึงประชาชนบนสองฝั่งแม่น้ำโขงโดยตัดความเป็นชาติ เป็นประเทศออกไป เราจะเห็นภาพความเป็นอันหนึ่งเดียวกัน โดยแม่น้ำโขงไม่เคยขวางกั้น ยิ่งในเรื่องประเพณี วัฒนธรรมที่ต้องตุ้มโฮม(รวมน้ำใจ)กันแล้ว ถือเป็นปกติที่จะข้ามไปข้ามมาหาสู่ การอัญเชิญพระพุทธรูปจากฝั่งนั้นไปฝั่งนี้ จากฝั่งนี้ไปฝั่งนั้นเป็นไปด้วยศรัทธาโดยแท้ พระบางวัดไตรภูมิก็ถูกอาราธนามาด้วยเหตุนี้ เช่นกันประมาณปี พ.ศ. 2450 เจ้าเมืองหินบูน แขวงคำเกิด มีความเคารพพระอาจารย์หงษ์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่วัดพระธาตุ ท่าอุเทน เป็นภิกษุที่มีผู้นับถือเลื่อมใสกันทั้งสองฝั่งโขงอยู่แล้ว เจ้าเมืองหินบูน และคณะจึงได้อัญเชิญพระบางจากบ้านคก ตำบลหินเหิบ มามอบให้ท่านและประดิษฐานไว้ที่วัดพระธาตุท่าอุเทน และต่อมาได้ย้ายมาที่วัดไตรภูมิจนถึงปัจจุบัน
