วันที่ 26 เม.ย.67 พ.ต.ต. หญิง จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ สว.(สอบสวน) สภ.ท่าอุเทน รับแจ้งเหตุคนกระโดดน้ำเสียชีวิต ริมฝั่งแม่น้ำโขง จุดผ่อนปรนตลาดไทย-ลาว จึงรุดไปพร้อม พ.ต.อ.แสวง คนคล่อง ผกก.สภ.ท่าอุเทน รถกู้ชีพ รพ.ท่าอุเทน และกู้ชีพเทศบาล ต.ท่าอุเทน
ที่เกิดเหตุหน้าศาลเจ้ามณีธรรม ใกล้ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอุเทน พบชาวบ้านนำร่าง น.ส.กาสินธ์ เหลือฝ่าย อายุ 71 ปี ชาวบ้านบะหว้า ม.10 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม สวมผ้าถุง เสื้อแขนยาวลายดอก ขึ้นมาบนตลิ่งมาปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต แต่สิ้นใจที่ รพ.ท่าอุเทน ในเวลาต่อ แพทย์ลงความเห็นว่าขาดอากาศหายใจนานกว่า 20 นาที
น.ส.วัลลภา บุพศิริ อายุ 53 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมชาวบ้านมาร่วมงานศพใกล้ด่าน ตม.แห่งนี้ พบเห็นคุณยายมานั่งเล่นในศาลาจุดผ่อนปรนริมตลิ่งแม่น้ำโขง นึกว่ามารอแห่ศพไปฌาปนกิจที่วัด จึงไม่มีใครสนใจใคร สักพักยายแอบเดินลงบันไดไปบนโป๊ะ ก่อนกระโดดลงน้ำโขง ผุดโผล่จึงร้องตะโกนให้คนไปช่วย
นายบุญมี แก้วอ่อน อายุ 46 ปี คนงานสร้างเขื่อน ผู้พบเห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ได้ยินเสียงร้องให้ช่วยว่ามีคนจมน้ำ จึงรีบพาเรือไปกับเพื่อนคนงานเพื่อจะช่วย พบศีรษะและมือยายโผล่พ้นเหนือน้ำ ก่อนร่างจมดิ่งใต้น้ำลึก 2-3 เมตร จึงดำงมนาน 5 นาทีจึงพบ ก่อนนำขึ้นเรือไปปั๊มหัวใจริมตลิ่ง ก่อนนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ท่าอุเทน ทราบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา
น.ส.ธัญธ์ชธร กุลสุทธิ์ อายุ 51 ปี ลูกสาว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ 5 วัน แม่มาหาตนที่บ้านเช่ากับสามีชาวโอมาน เพื่อสร้างบ้านใหม่ใกล้จุดเกิด ช่วงเช้าแม่บอกจะไปตลาด และจะไปนั่งเล่นริมฝั่งโขง จะบอกแม่ตลอดว่าต่อไปจะสบายไม่ลำบากอีกแล้ว แม่มักจะเถียงกับตนบ่อยครั้ง แถมยังบ่นบอกว่าอยากตายหลายครั้ง ไม่นึกนึกว่าแม่พูดเล่น จนไปกระโดดน้ำตายจริงๆ อาจน้อยใจตนตามประสาคนแก่ก็เป็นได้
