เมื่อ 27 เมษายน 2567 ที่ วัดเจริญศิลป์ บ้านโพนทอง หมู่ที่ 8 ตำบลโพนทอง อำเภอบ้านแพงจังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบการร้องเรียน นายวาสนา ศรีกระสอน ผู้ใหญ่บ้านโพนทองหมู่ที่ 8 โดยถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมยักยอกเงินทำบุญประจำปีของวัดเนื่องจากไม่มีความโปร่งใสในการจัดส่งเงินจากการร่วมทำบุญของชาวบ้านในหมู่บ้าน โดยพระมหาพงษ์ศักดิ์ภัทราวุธโธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดเจริญศิลป์ ซึ่งเป็นผู้ทำบัญชีของวัด ได้นำบัญชี ราย-รับ รายจ่ายของวัดเจริญศิลป์ จำนวนหนึ่งมาแสดง เพื่อยืนยันความถูกต้อง ในการจัดเก็บเงินเข้าวัดที่ใช้ในการ ดำเนินการทำบุญของวัด
โดยผู้ช่วยเจ้าอาวาสเปิดเผยว่า ชาวบ้านโพนทองทั้ง 2 หมู่ ได้กำหนดวันทำบุญมหาชาติประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา นั้น ซึ่งการดำเนินการของหมู่บ้านได้มีประชามติที่ประชุมยกมือ ให้เก็บเงินหลังคาละ 500 บาท เพื่อสมทบกันร่วมจัดงาน โดยมอบหมายให้หัวหน้าคุ้มแต่ละคุ้มเป็นผู้จัดเก็บจากบ้านแต่ละหลัง ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าว มีทั้งหมด 7 คุ้ม ภายในหมู่บ้าน เมื่อหัวหน้าคุ้มแต่ละคุ้มได้จัดเก็บเรียบร้อยแล้ว จะนำเงินที่เก็บมาได้ส่งที่นายวาสนา ศรีกระสอน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ซึ่งเป็นผู้จัดทำบัญชีส่งกับทางวัด ต่อมาเมื่อมีการตรวจสอบตามบัญชีจากการสรุปยอด พบไม่ตรงตามจำนวนเงินที่ส่งให้วัดโดยมีบางส่วนขาดหายไป ตนและชาวบ้าน จึงมีข้อสงสัยจึงได้พากันร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรม อำเภอบ้านแพงและร้องสื่อสื่อมวลชน เพื่อเข้าตรวจสอบ นายบุญร่วม พรมสา หัวหน้าคุ้ม 002 กล่าวให้รายละเอียดว่า ปกติผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้รวบรวมเงินแล้วนำส่งให้วัดแต่เพียงผู้เดียว โดยตนที่เป็นหัวหน้าคุ้มไปไปเรียกเก็บเงินมาจากแต่ละครัวเรือนในคุ้ม ทั้งหมดได้ยอด 8,500 บาท แต่มีอยูหลังหนึ่งยังไม่สะดวกที่จะส่งมอบเงินในขณะที่ไปเก็บ โดยรับปากว่าจะนำไปส่งให้ผู้ใหญ่บ้านภายหลัง ตนจึงลงบัญชีไปว่าได้รับมาครบแล้วเนื่องจากสอบถามเจ้าตัวก็ยืนยันว่าส่งเงินครบแล้ว แต่เมื่อมาตรวจสอบบัญชี กลับพบว่ายอดที่ผู้ใหญ่บ้านนำส่งขาดไป 500 บาท ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่านำส่งให้ผู้ใหญ่บ้านแล้ว เบื้องต้นตนจึงได้มาชี้แจงว่าเงินรายรับไม่ตรงกับยอดที่นายวาสนา ศรีกระสอน สรุปมาให้ โดยคุ้มอื่นๆในหมู่บ้านก็นำส่งเช่นกัน ซึ่งแต่ละยอดบางยอดเงินไม่ตรงกับจำนวนที่ส่งกับทางวัด ทำให้เกิดข้อสงสัยและซักถามหัวหน้าคุ้มแต่ละคุ้มว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ บางคุ้มก็ยืนยันได้ บางคุ้มก็ยืนยันไม่ได้แต่ทุกคุ้มกล่าวอ้างว่า ได้ส่งให้กับผู้ใหญ่บ้าน ม.8 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเป็นประเด็น ทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือถูกชาวบ้านกล่าวหาว่า ไม่โปร่งใสมีการยักยอกเงิน ซึ่งเงินได้ให้ครบไปหมดแล้ว แต่ลงไม่ครบตามที่มอบให้และไม่มาชี้แจง ผู้เสียหายและตัวแทนชาวบ้านโพนทอง พร้อมด้วยทางวัดจึงทำหนังสือมาถึงทางอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม เพื่อเชิญนายวาสนา ศรีกระสอน มาชี้แจง เพราะที่ทำแบบนี้ชาวบ้านไม่พอใจและไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นผู้นำหมู่บ้าน
ด้านนายวาสนา ศรีกระสอน ผู้ใหญ่บ้านโพนทองหมู่ 8 กล่าวเปิดเผยว่า ในการจัดงานประจำปีครั้งนี้นั้นชาวบ้านมีมติให้แต่ละครัวเรือนลงขันกันออกเงินร่วมจัดงานครัวเรือนละ 500 บาท และมอบหมายให้หัวหน้าคุ้มแต่ละคุ้มเก็บเงินแล้วนำส่งให้ผู้ใหญ่บ้านเพื่อรวบรวมส่งให้วัดอีกที แต่ในทางปฎิบัติ บางครัวเรือนยังไม่พร้อมตอนที่หัวหน้าคุ้มไปเก็บแต่รับปากว่าจะนำส่งให้ผู้ใหญ่บ้านทีหลัง แต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก ซึ่งตนก็ได้ทำบัญชีรับเงินไว้ด้วยเช่นกัน โดยจะลงยอดเงินที่ได้รับตามความเป็นจริงในขณะที่รับเงิน และผู้ที่นำเงินมาส่งทีหลังหากตนรับด้วยตัวเองตนก็จะลงบัญชีเพิ่มให้ทันทีแต่หากพวกเขานำเงินมาส่งไว้กับภรรยาตนหรือคนในบ้านขณะที่ตนไม่อยู่ตนก็ไม่สามารถลงบัญชีให้ได้ ภายหลังก็มีการตรวจสอบพบว่ามีหลายรายที่นำเงินมาส่งให้ตนแล้วแต่ตนยังไม่ได้เพิ่มลงในบัญชีของตน ทำให้ยอดที่ตนนำส่งให้วัดอาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ตนก็ได้แจ้งกับมัคทายกวัดไปแล้วว่ายอดเงินอาจจะคลาดเคลื่อนไปได้ด้วยเหตุดังกล่าว หากขาดเหลือยังไงตนก็พร้อมรับผิดชอบเนื่องจากเป็นยอดเงินจำนวนไม่มาก แต่พวกเขาก็ไม่ได้แจ้งตนกลับนำเรื่องไปร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอกับสื่อมวนชนก่อน ซึ่งตนก็ได้ไปชี้แจงกับทางอำเภอแล้ว และขอยืนยันความบริสุทธิ์ ว่าตนไม่เคยคิดที่จะโกงเงินวัดหรือเงินทำบุญของชาวบ้านเพราะที่ผ่านมาตนทำงานเพื่อชาวบ้านมาตลอดเกือบสิบปีที่อยู่ในตำแหน่งมีผลงานและใบเกียรติคุณที่ทางการมอบให้มากมาย ที่มีการร้องเรียนในครั้งนี้เป็นฝีมือของฝ่ายตรงกันข้ามที่เคยลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านกับตนในสมัยที่ผ่านมา ซึ่งหากตนผิดจริงก็พร้อมลงจากตำแหน่งโดยไม่เคยคิดจะยึดติดกับตำแหน่งแต่อย่างใด
