X

แม่น้องเต้ ลั่นระฆังร้องผู้ว่าฯ นครพนม เหตุลูกชายถูกแก๊งโจ๋ทมิฬ ฆ่าอย่างโหดเหี้ยม

แม่น้องเต้ ลั่นระฆังร้องผู้ว่าฯ นครพนม เหตุลูกชายถูกแก๊งโจ๋ทมิฬ ฆ่าอย่างโหดเหี้ยม คดีไม่คืบหวั่นถูกดองคดี

วันที่ 13 พ.ค.67 เวลา 11.00 น.ทนายลูกฟูก เทพนิมิตร บำรุงหงษ์ กลุ่มพิทักษ์รักษ์ประชาชน ผดุงความยุติธรรม ปกป้องประชาชน พานางวารี วะโลลม อายุ 36  ปี บ้านเลขที่ 54/1 ม.8 บ้านดอนแดง ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม แม่”น้องเต้”ที่โดนแก๊งค์โจ๋ต่างหมู่บ้านทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดขึ้นพื้นที่ บ.ห้วยพระ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2566 โดยนับจากวันที่เกิดเหตุกระทั่งถึงวันนี้ คดียังไม่คืบหน้า จึงพากันเดินทางสั่นระฆังร้องทุกข์ต่อนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ซึ่งติดราชการจึงสั่งการให้ นางสาวเอมอร อุ่นคำ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายไชยวุฒิ วัชรเรนทร์สุนทร นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม รับหนังสือร้องทุกข์แทนผู้ว่าฯ เพื่อขอความเป็นธรรม

นางวารี ผู้เป็นแม่กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การตายของลูกชายผ่านมาแล้วเกือบปี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษได้แต่อย่างใด ทั้งนี้ทุกครั้งที่ตนสอบถามความคืบหน้าของคดี เจ้าหน้าที่อ้างเพียงกำลังสืบสวนเพื่อออกหมายจับอย่างนี้ทุกครั้ง  ทำให้ไม่มั่นใจว่าคดีลูกชายจะถูกดองไว้หรือไม่  จึงเดินทางมาร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเร่งรัดคดีติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษและดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

นายไชยวุฒิ วัชรเรนทร์สุนทร นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นางวารีเคยมายื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมแล้ว ทางศูนย์กำลังติดตาม รับทราบจึงได้รับทราบว่าในขณะนี้ทางตำรวจกำลังดำเนินการเรื่องของคดี แต่ครั้งนี้อาจติดขัดด้วยผลของคดีในข้อจำกัดบางอย่าง จึงไม่สามารถเปิดเผยได้ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามคดีนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วมด้วยแล้วจึงไม่น่ามีความกังวลใจ

สำหรับคดีนี้ย้อนไปเมื่อคืนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.66  เวลาประมาณ 21.00 น. วรเมธ วิเชียรซอย หรือ เต้ อายุ 16 ปี ได้ชวนนายต๋อย(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ออกไปชื้อของ นายต๋อย เล่าให้ฟังว่า ซึ่งตอนแรกตนเองปฏิเสธไป เพราะที่บ้านห้วยพระกับบ้านท่าดอกแก้วมีการปาระเบิดใส่กัน แต่นายเต้ ก็ยังยืนยันที่จะไปและขี่รถจักรยานยนต์มารับตนที่หน้าบ้าน ซึ่งที่ตนเองยอมไปด้วยเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของน้อง

ซื้อของเสร็จก็เดินทางกลับโดยตอนนั้นนายเต้เป็นคนขับพอถึงช่วงบ้านห้วยพระเจอกลุ่มวัยรุ่นบริเวณด้านหน้าร้านค้ายืนกันอยู่ประมาณ 4-5 คน ตนเองเห็นกลุ่มวัยรุ่นยืนจ้องหน้าตนเองกับนายเต้ ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยแหละคิดว่าต้องโดนแน่ ๆ ก่อนที่นายเต้จะรีบขี่รถจักรยานยนต์หนี จากนั้นก็ไปเจอกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 10 คน โดยวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้โยนค้อนกับไม้ใส่ตนเองและนายเต้ โดยไม่พูดอะไร แต่ไม่โดน

จากนั้นนายเต้จึงได้เร่งรถหนี ก่อนจะไปเจอกลุ่มวัยรุ่นชาย ประมาณ 3-4 คนดักอยู่ด้านหน้า เป็นกลุ่มที่ 3 ก่อนที่วัยรุ่น 1 ในนั้น ใช้ของแข็ง ตนไม่แน่ใจว่าเป็นไม้หรือค้อน ฟาดหัวนายเต้จนสลบ 1 ครั้ง ทำให้รถเสียหลัก และโทรศัพท์ตนเองหล่นหาย จากนั้นตนเองรีบลุกขึ้นและหาโทรศัพท์ ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมจะปาระเบิดใส่ตนเองและนายเต้ แต่ไม่โดนตนเองจึงวิ่งหนีเข้าพงหญ้า โดยมีกลุ่มวัยรุ่นวิ่งตามแต่ตนเองหนีได้ทัน จึงใช้โทรศัพท์ โทรกลับไปบอกเพื่อนให้มาดูนายเต้ที่สลบอยู่ โดยในตอนนั้นตนเองไม่ได้หันไปดูนายเต้ จึงไม่รู้ว่ากลุ่มวัยรุ่นวกกลับไปรุมทำร้ายนายเต้ที่นอนอยู่ที่พื้นหรือไม่

กลุ่มก่อเหตุ อายุประมาณ 18-20 ปี แต่ตนเองไม่ได้สังเกตุรูปพรรณสัณฐาน เห็นแค่ 1 ในนั้น มีรูปร่างอวบที่ผ่านมาตนเองเคยผ่านเส้นทางนี้แต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และไม่ทราบปมเหตุที่เกิดขึ้นส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการตีผิดตัว เพราะกลุ่มวัยรุ่นบ้านท่าดอกแก้วและบ้านห้วยพระ เคยมีเรื่องท้าทายกันมาก่อน และในวันนั้น บ้านท่าดอกแก้วเป็นฝ่ายมาปาระเบิดใส่บ้านห้วยพระก่อน โดยหลังเกิดเหตุปาระเบิดประมาณ 4 ถึง 5 นาทีตนเองและนายเต้ ก็ขี่รถผ่านมาพอดี ยืนยันว่าตนเองกับนายเต้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปาระเบิด

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน