X

ผู้ว่าฯ นครพนม ขอให้ประชาชนช่วยกันดูแลบุตรหลาน อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นอันขาด

ผู้ว่าฯ นครพนม ขอให้ประชาชนช่วยกันดูแลบุตรหลาน อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นอันขาด และเข้ามามีส่วนร่วมการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน

วันที่ 12 มิ.ย.67 เวลา 09.00 น. ที่บ้านโพนงาม หมู่ที่ 3 ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดโครงการชุมชนยั่งยืน และปราบปรามนักค้ายาเสพติดในชุมชน (NPD.P4) บ้านโพนงาม หมู่ที่ 3 ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม ซึ่งสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนมร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน เสริมสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง เข้าใจและรับรู้ปัญหาภัยที่เกิดขึ้นจากยาเสพติด เพื่อให้เกิดกระบวนการป้องกัน แก้ไข และการบำบัดยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของคนในหมู่บ้าน/ชุมชน และเพื่อสร้างรูปแบบการดำเนินงานในหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยเน้นปราบปรามนักค้ายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมนโดยเร่งด่วน มี พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนคร ผู้แทนนายอำเภอเมืองนครพนม สาธารณสุขอำเภอ ผู้อำนวยการ รพ.สต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) และประชาชนเข้าร่วมโครงการ โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามในบันทึกข้อตกลงให้ความร่วมมือตามโครงการยั่งยืนและปราบปรามนักค้ายาเสพติดในชุมชน(NPD.P4)บ้านโพนงาม ซึ่งประกอบด้วยนายอำเภอเมืองนครพนม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม สาธารณสุขอำเภอเมืองนครพนม กำนันตำบลนาทราย นายก อบต.นาทราย ผู้อำนวยการ รพ.สต.บ้านหัวโพน และผู้ใหญ่บ้านโพนงามหมู่ที่ 3

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาของโลก ที่ทุกรัฐบาลในโลกให้ความสำคัญในการป้องกัน ปราบปราม เพราะยาเสพติดมีแต่ให้โทษต่อร่างกาย และสังคม ในส่วนของประเทศไทยก็เช่นเดียวกันรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการป้องกัน ปราบปรามยาเสพติดและบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด สำหรับจังหวัดนครพนม เป็นจังหวัดชายแดนที่มีระยะทางถึง 174 กิโลเมตร มีเกาะแก่งในแม่น้ำโขงที่เป็นของประเทศเพื่อนบ้านอีก 49 แห่ง จึงเป็นจุดพักยาที่ผู้ค้ายาเสพติดนำยามาซุกซ่อนไว้เพื่อรอนำเข้ามาในประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้วางกำลังป้องกันไว้อย่างเต็มที่ สามารถจับกุมตรวจยึดยาเสพติดได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของพี่น้องประชาชนเองก็อย่าไปเป็นเครื่องมือให้ผู้ค้ายาเสพติด แม้ว่ารายได้มันเย้ายวนใจก็ตาม หากถูกจับกุมก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด และยึดทรัพย์ด้วย อย่างไรก็ตามหากยาเสพติดเล็ดลอดเข้าสู่พื้นที่ชั้นในเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจภูธรได้ช่วยกันหาเบาะแสเพื่อป้องกัน ปราบปรามเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ในส่วนของผู้เสพก็นำตัวเข้าสู่การบำบัดรักษาตามกระบวนการตามหลักสูตรที่กำหนดซึ่งมี 15 วัน 30 วัน 90 วัน หรือ 120 วันแล้วแต่อาการของผู้ป่วย ซึ่งมีจำนวนกว่า 5,000 คน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยสีแดง จำนวน 709 คน ต้องได้รับการบำบัดรักษาในโรงพยาบาลมินิธัญญารักษ์ เมื่อผ่านการบำบัดแล้วก็จะส่งกลับไปอยู่กับครอบครัว ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนได้ช่วยกันดูแลลูกหลานในครอบครัวของตัวเองอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นอันขาด ส่วนผู้ที่ผ่านการบำบัดแล้วก็ขอให้ช่วยกันดูแลอย่าให้กลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำอีก พร้อมทั้งแจ้งเบาะแสยาเสพติดให้เจ้าหน้าที่ด้วยเพื่อจะได้เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งโครงการชุมชนยั่งยืน และปราบปรามนักค้ายาเสพติดในชุมชน สามารถทำเป็นต้นแบบและขยายผลไปสู่หมู่บ้าน/ชุมชนต่าง ๆ ได้ด้วย

พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนกลุ่มผู้เปราะบาง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ มอบสิ่งช่วยเหลือของเบื้องต้น และได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือต่อไป อีกทั้งยังได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)บ้านหัวโพน ต.นาทรายด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน