นครพนม – วันที่ 20 ธ.ค.61 เวลา 16.00 น. บริเวณลานกันเกรา หน้าตลาดอินโดจีน ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม หลังคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2561 เรื่องการให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ โดยที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561ดำเนินงานด้านการเมืองได้ พรรคเพื่อไทยจึงเปิดเวทีไอปาร์ค โดยการเปิดตัว 4 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ตอนแรกรายงานข่าวว่า”เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย จะมาเป็นผู้กล่าวทักทายกับประชาชน ปรากฏว่าต้องรีบเข้า กทม.ด่วน เพื่อประชุมพรรค จึงให้ 4 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 4 คน รับช่วงดำเนินการต่อ โดยมีประชาชนเข้ารับฟังการปราศรัยประมาณ 300 คน
ประเดิมด้วยนายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัครฯจากเขต 1 กล่าวว่าขอเดินหน้าประเทศไทย น้อมรับผลการตัดสินของประชาชนในการตัดสินใจพรรคการเมือง เพราะท่านคือผู้ชี้อนาคตของประเทศไทย ตอนนี้สงสารพี่น้องชาวสวนยางพารา ที่ต้องขายยางในราคาที่ต่ำกว่ารัฐบาลเพื่อไทย ปัจจุบันมีคนจนเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี เพราะดูจากจำนวนบัตรสวัสดิการของรัฐ
ข่าวน่าสนใจ:
จากนั้นก็ถึงคิวของนายไพจิต ศรีวรขาน ว่าที่ผู้สมัครฯเขต 3 อดีต ส.ส.10 สมัย เผยว่าที่ผ่านมามีคนมาจีบไปอยู่พรรคใหม่ แต่ยืนยันจะอยู่กับพรรคเพื่อไทย เสียใจที่ลูกน้องคนสนิทที่รักมาก ทนความยั่วยวนไม่ไหวจึงย้ายไปอยู่พรรคอื่น นายไพจิตกล่าวต่อว่าสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีหนี้อยู่ประมาณ 2 ล้านล้าน 4 ปีผ่านมาตอนนี้มีหนี้ถึง 6 ล้านล้านบาท
ขณะที่นางมนพร เจริญศรี ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 เผยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้หนีหายไปไหน เพราะถูกห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จึงไม่กล้าออกไปพบปะผู้ใด เกรงข้าราชการจะลำบากใจ แต่ในสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล นำงบประมาณมาลงจำนวนมาก อีกอย่างพื้นที่จังหวัดนครพนมถือว่าเป็นไข่แดงของพรรค จึงขอเสียงสนับสนุนจากประชาชน เลือกพรรคเพื่อไทยเข้าไปในสภาเยอะๆ
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ดุเดือดที่สุดในสนามเลือกตั้งของจังหวัดนครพนม ระบายความรู้สึกว่าครั้งแรกที่ไปลงเขต 4 ทั้งที่ไม่เคยพบปะกับพี่น้องประชาชนมาก่อน เพราะเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ดูแลโซนเหนือของจังหวัด พบชาวสวนยางรายหนึ่งบอกว่ากรีดยางพาราจนหมดสวน ก็ไม่พอค่าเทอมลูก ตอนนี้พี่น้องยากลำบากจากเศรษฐกิจปากท้อง จึงขอชูคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี นายชวลิตเผยต่อว่าตั้งแต่เป็นประเทศไทยมา มีรัฐบาลปัจจุบันที่ใช้เงินมากถึง 14 ล้านล้านบาท ขนาดใช้เงินมากแต่ประชาชนยังยากจน เพราะดูจากจำนวนผู้ไปใช้บัตรสวัสดิการของรัฐมีถึง 14.7 ล้านคน ตนจึงมองเป็น 3 ประการว่ารัฐบาลใช้เงินไม่ถูกกับสถานการณ์ คือ1.ใช้ไปซื้อเรือดำน้ำ รถถัง และเครื่องบิน ทั้งที่บ้านเมืองตอนนี้และรอบบ้านไม่มีภัยสงคราม มีแต่ความทุกข์ยากของประชาชน
2.กรณีรัฐบาลดูแลคนจน ตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้งบประมาณหลายหมื่นล้าน แต่เงินไม่ได้หมุนเวียนในหมู่บ้าน แต่กลับหมุนไปอยู่ในมือเจ้าสัว แบบรวยกระจุกจนกระจาย หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ให้เงินไหลไปอยู่กับเจ้าสัวอีก แต่จะให้หมุนเวียนอยู่ในชุมชน
และ 3.การเมืองการปกครองของประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย ถูกบอยคอตจากนานาประเทศ มีการบินไปพบผู้นำแต่ละชาติจับไม้จับมือกัน แต่ไม่มีการลงทุน เพราะเขาไม่เชื่อมั่นระบบการเมืองของไทย ผู้นำประเทศบินไปพบใครก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีการเลือกตั้งเร็วๆนี้ แต่ก็กลายเป็นโรคเลื่อนตลอด นักธุรกิจจึงหันไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเมืองมั่นคงกว่า โดยการไฮปาร์คจบลงในเวลา 17.30 น.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: