X

ตำรวจสายตรวจ วิสามัญหนุ่มลาวคลั่ง เงื้อมีดสปาต้าจะทำร้าย หลังถูกต้อนจวนตัว

นครพนม : ตำรวจสายตรวจ วิสามัญหนุ่มลาวคลั่ง เงื้อมีดสปาต้าจะทำร้าย หลังถูกต้อนจวนตัว ชาวบ้านสุดเอือม ประวัติอื้อเคยติดคุกและป่วยจิต

เวลา 15.50 น. วันที่ 4 ส.ค.2567 พ.ต.ท.พร้อมศักดิ์ รัตนภักดี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุตำรวจเข้าระงับเหตุยิงชายคุ้มคลั่งได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณริมกำแพงวัดน้อยโพธิ์คำ (วัดพระใหญ่) ชุมชนน้อยใต้ ในเขตเทศบาลเมืองฯ จ.นครพนม

จึงรายงาน พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม  และรีบรุดไปที่เกิดเหตุ  พร้อมรถกู้ชีพ 1669 รพ.นครพนม ตำรวจชุดสืบสวน  เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวร รพ.นครพนม

ที่เกิดเหตุเป็นถนนคอนกรีต ทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พบศพชายทราบชื่อภายหลังคือนายสิงห์ คำดี อายุ 40 ปี อาชีพเก็บของเก่า เป็นชาวลาวเมืองหินบูน แขวงคำม่วนสปป.ลาว  สภาพศพถูกยิงเสียชีวิตนอนหงายสวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าท้อง ข้างศพพบมีดดาบซาปาต้ายาว 2 ฟุต และอาวุธปืนไม่ทราบชนิดตกอยู่  จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน  ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถสามล้อเครื่องสกายแล็ปของผู้ตาย และรถจักรยานยนต์สายตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จอดอยู่  หน้าบ้านไม่มีเลขที่ของนายสิงห์ ผู้ตาย

โดยเจ้าหน้าที่สายตรวจนายหนึงเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่งและบุกรุกเคหะสถาน  พวกตนจึงขับรถจักร จยย.ตราโล่เข้า พื้นที่ที่ได้รับแจ้งเพื่อระงับเหตุ   เมื่อผู้ตายเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ก็ปรี่เข้าจะทำร้าย พวกตน จึงวิทยุขอกำลังเสริม แต่ไม่ทันคนร้ายคว้ามีดดาบซาปาต้าและอาวุธปืน ไล่ฟันพร้อมเล็งอาวุธปืนใส่ ทำให้ต่างทิ้งรถและวิ่งหนีตายไปคนละทิศคนละทาง  ขณะถึงใต้ต้นมะเดื่อคนร้ายวิ่งเข้ามาชาร์จในระยะประชิด พร้อมเงื้อมีดสปาต้าจะฟันตนเห็นจวนตัว  จึงชักอาวุธปืนยิงออกไป 3-4 นัดเพื่อป้องกันตัว กระสุนถูกลำตัวคนร้ายจนล้มลง แต่ยังมีชีพจรและยังหายใจรวนระริน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้รถกู้ชีพ มารับตัวไปส่งรักษาที่ รพ.นครพนม  ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ  จึงรีบโทรศัพท์แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

พี่เขยผู้ตายวัย 50 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายสิงห์น้องเขยคนนี้ ขับรถสามล้อสกายแล็บเข้ามาจอดหน้าบ้าน จู่ ๆ เกิดคลุ้มคลั่งโวยวายเสียงดังอาละวาด สาเหตุอาจเป็นบ้ามานานหลายปี และมีนิสัยมักจะเสพยาบ้านจนหลอนด้วย ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเอือมระอา เลยแจ้งตำรวจสายตรวจให้มาระงับเหตุ

ก่อนหน้านี้น้องเขยเคยตีลูกชายตนสลบเย็บ 10 เข็ม  จึงแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ ตำรวจเคยมาจับกุมตัว 2-3 ครั้งในข้อหาลักขโมยเหล็ก และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง เคยติดคุกมา 1 ปี หลังออกมาได้สี่ห้าเดือนก็มักจะคลุ้มคลั่งมาตลอด ถ้าไม่สู้กับตำรวจก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ ในมือแม้จะเป็นปืนปลอม แต่ก็ไม่ควรเอามาถือเพราะคนจะคิดว่าเป็นของจริงไว้ก่อนเสมอ พี่เขยวัย 40 กล่าว

หลังเกิดเหตุมีนางดาว จันทะลา อายุ 75 ปี แม่ของผู้ตาย ยืนร้องให้ ปริ่มจะขาดใจนานราวครึ่งชั่วโมง และอยากจะขอดูศพลูกชาย พร้อมกล่าวว่าตนมีลูก 5 คน คนตายเป้นคนที่ 2 ตอนที่ ลูกชายเอามีดไล่ฟันตำรวจตนไม่เห็นเพราะนั่งอยู่ในบ้าน ส่วนปืนที่อยู่ในมือลูกชายเป็นปืนปลอม เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงรีบวิ่งออกมาดู พบลูกถูกยิงนอนหายใจรวยรินอยู่แล้ว และเสียชีวิตในที่สุด

เพื่อนบ้านกล่าวว่า ขณะตำรวจสายตรวจ 2 นายมาถึงที่เกิดเหตุผู้ตาย จู่ ๆ ก็คิดต่อสู้กับตำรวจ มือซ้ายถืออาวุธมีดดาบ ส่วนมือขวาถืออาวุธปืนลักษณะคล้ายขึ้นลำ ที่ผ่านมามักจะถือมีดและถือปืนเอะอะโวยวาย จนเพื่อนบ้านและชาวบ้านไกล้เคียงเอือมระอา จึงแจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ กระทั่งถูกวิสามัญดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ เผยว่า หลังสายตรวจรับแจ้งเหตุจึงมาระงับเหตุ ตำรวจที่วิสามัญฯ เป็นสายตรวจ จยย.มากัน 2 คน ตำรวจและคนร้ายเจอกันครั้งแรกทางออกปากซอย ผู้ตายพบเห็นจึงขับรถสกายแล็ปเข้ามาจอดหน้าบ้าน ตำรวจก็ขับตามและมาจอดหน้าบ้านนายสิงห์ ผู้ตายเข้าไปในบ้านถือมีดดาบยาว 2 ฟุต และอาวุธคล้ายปืนสีเทามีแม็กกาซีน ออกมาจะฟันและจะยิงตำรวจ ตำรวจที่วิสามัญเห็นคนร้ายใกล้จะถูกทำร้ายจวนตัว จึงยิงป้องกันตัว

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานอัยการ แพทย์เวร และฝ่ายปกครอง มาร่วมชันสูตรพลิกศพ เนื่องจากเป็นเหตุวิสามัญฆาตกรรม ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน