X

นครพนม ตลาดอินโดจีนซึมหนัก ลองวีคเอนด์ไร้นักท่องเที่ยวซื้อของ

12 สิงหาคม 2567 บรรยากาศการท่องเที่ยวหน้าริมโขงเทศบาลเมืองนครพนม โดยเฉพาะพื้นที่จำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกภายในตลาดอินโดจีนไม่คึกคักเท่าที่ควร แม้ว่าช่วงระหว่างวันหยุดยาวและผ่านพ้นช่วงระยะสถานการณ์โควิคมาแล้วนับปีก็ตาม

นายเด่น พ่อค้าร้านตัดเย็บเสื้อผ้า วัย 79 ปี กล่าวว่าตนเปิดร้านตัดเย็บในตลาดอินโดจีนแห่งนี้มาหลายสิบปี ยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าที่หันไปนิยมซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงทางร้านก็ประสบกับแรงงานการตัดเย็บที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ไม่สามารถแข่งขันสู้กับสินค้าที่นำเข้าจากจีนและเปิดซื้อขายกันในออนไลน์ พร้อมทั้งกล่าวถึงร้านค้าที่จากเดิมที่เคยเปิดจำหน่ายเต็มพื้นที่ภายในตลาดของที่นี่ แต่เวลาเหลือจำนวนร้านที่ยังเปิดขายไม่ถึงครึ่งหนี่งเพราะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาจับจ่ายเหมือนแต่ก่อน

ป้าจิ้งหรีด แม่ค้าขายขนมขบเคี้ยว อายุ 65 ปี กล่าวว่า ขนมขบเคี้ยวที่ร้านจะมีเซลล์เข้ามาเสนอขายถึงที่ร้าน ซึ่งทั้งหมดเป็นสินค้าภายในประเทศ ที่ผ่านมาหากมี นทท. เข้ามาแวะเดินก็มีโอกาสได้ แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่เข้าใจว่า นักท่องเที่ยวไปที่ไหนกันบ้าง ทุกวันนี้ต้องทำใจยอมรับแม้ว่าค่อนข้างเงียบ

สอดคล้องกับ นายยุวชาติ อายุ 60 ปี พ่อค้าขายเครื่องใช้ไฟฟ้าและเบ็ดเตล็ด สินค้าที่นำมาจำหน่ายสั่งซื้อจากร้านค้าส่งกรุงเทพรวมถึงในแพลตฟอร์ม ช็อปปี้และลาซาด้า กล่าวถึงนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเที่ยวนครพนมนิยมเดินทางมาไหว้พระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ที่ร้านก็ยังพอได้ขายสินค้าอยู่ในระดับแม้จะไม่คึกคักเหมือนก่อน แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความแตกต่างระหว่างช่วงโควิดกับทุกวันนี้ นายยุวชาติกล่าวว่า ช่วงระหว่างโควิดตนค้าขายได้ดีกว่าเวลาขณะนี้

นางสรวีย์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าและเบ็ดเตล็ดอีกร้านหนึ่ง ภายในตลาดอินโดจีนด้วยเช่นกัน กล่าวถึงสินค้าส่วนใหญ่ตนก็สั่งซื้อจากกรุงเทพฯเข้ามาขายด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นว่า ทุกวันนี้ร้านค้าของที่นี่ได้ปิดตัวลงหลายร้าน และคิดว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวเองก็คงขาดกำลังซื้อ ด้วยเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มีคนตกงานที่เพิ่มขึ้นทำให้บางคนต้องพลิกผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าแม่ค้า นครพนมทุกวันนี้พ่อค้าแม่ค้าแทบจะมีมากกว่าคนที่จับจ่ายซื้อของ และเมื่อถามถึงโครงการเงินดิจิตอลของรัฐบาลสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้หรือไม่ นางสรวีย์กล่าวต่อไปว่า ตนเองยังไม่ค่อยเข้าใจระบบการรับจ่ายจะช่วยกระตุ้นได้อย่างไร เพราะระบบที่ค้าขายอยู่ทุกวันนี้ เมื่อขายของได้ก็จะนำเงินสดดังกล่าวซื้อสินค้านำมาขายต่อและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่โครงการของเงินดิจิตอลจะช่วยให้ค้านค้าเกิดสภาพคล่องรูปแบบไหนยังคลุมเครือ ทำให้ตนยังไม่กล้าลงทะเบียนในระบบเงินดิจิตอล ขอศึกษาแผนของรัฐบาลต่อไปก่อนอีกสักระยะ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน