X

ม.นครพนม ยกระดับเกษตรปลอดภัยริมโขง อ.ธาตุพนม ด้วยองค์ความรู้วิชาการ บูรณาการพัฒนาอย่างยั่งยืน


วันที่ 26 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ใน ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม เป็นพื้นที่สามารถปลูกผักได้ตลอดทั้งปี แต่จะเว้นการปลูกหรือการพักหน้าดินในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม โดยระหว่างของการพักหน้าดินจะทำการปลูกพืชอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงดิน เช่น การปลูกถั่วลิสง การรวมกลุ่มของสมาชิกในโครงการ “แนวทางการพัฒนาและบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่ผู้ปลูกผักริมโขง ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม” ทำให้สมาชิกกลุ่มมีกิจกรรมร่วมกันตลอดเวลามหาวิทยาลัยนครพนม เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ทำให้เกษตรกลุ่มแปลงใหญ่ผู้ปลูกผักริมโขงของ ต.น้ำก่ำ มีความรู้ และมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นในด้านคุณภาพและมูลค่าของสินค้าทางการเกษตร ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่มีเครือข่ายสมาชิกกลุ่ม กว่า 50 คน ครอบคลุมพื้นที่ 4 หมู่บ้านของตำบลน้ำก่ำ ได้แก่ หมู่ 1 หมู่ 4 หมู่ 5 หมู่ 10 หมู่ 17 และหมู่ 13 และแผนอนาคตในการพัฒนาอาจยกระดับพื้นที่ให้เป็นแหล่งผลิตพืชผักปลอดภัยและการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ของ อ.ธาตุพนม ต่อไป

นางบังอร ภิญโญพันธ์ อายุ 57 ปี เกษตรกรชาวบ้านน้ำก่ำ หมู่ที่ 10 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เล่าถึงความพยายามและความสำเร็จของตนพร้อมกับการรวมกลุ่มสมาชิกเกษตรริมโขง โดยที่ผ่านมาตนและเพื่อบ้านในพื้นที่ของ ต.น้ำก่ำ ได้พากันปลูกผักทำเกษตรริมโขงส่งขายให้กับร้านค้าชุมชนและพ่อค้าคนกลางมาหลายสิบปี เมื่อมีความต้องการของตลาดมากขึ้น การผลิตเพื่อส่งออกจะต้องได้ปริมาณที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน และสิ่งที่เกษตรกรต้องทำคือการพึ่งสารบำรุงพืช เพื่อเร่งผลผลิตให้ทันต่อการขาย องค์ความรู้ส่วนหนึ่งของ ม.นครพนม เราได้นำมาปรับใช้กับเครือข่ายสมาชิกการทำเกษตรแบบเดิม ให้สามารถพัฒนาด้วยองค์ความรู้เข้ามาใช้ตามหลักวิชาการ เรามีอุดมการณ์แล้ว เราเพิ่มความเป็นหลักวิชาการเข้าไป ทำให้เราเป็นเกษตรปลอดภัยที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง

ด้วยลักษณะพื้นที่ของ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม ที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขงและมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี ประกอบกับการศึกษาเชิงพื้นที่ของกลุ่มนักวิชาการคณะเกษตรและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนครพนม พบว่า เดิมพื้นที่ดังกล่าวมีความสมบูรณ์ของธาตุอาหารในดินอยู่แล้ว หากจะยกระดับการทำเกษตรริมโขงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวเกษตรในพื้นที่ จึงได้ประชุมหารือกับกลุ่มเกษตรกรเพื่อคุณภาพของสินค้าและมูลค่าของผลผลิต ทำให้เกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสาวคนธ์ เหมวงษ์ คณบดีคณะเกษตรและเทคโนโลยี หัวหน้าโครงการ “แนวทางการพัฒนาและบริหารจัดการกลุ่มแปลงใหญ่ผู้ปลูกผักริมโขง ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม” บอกว่า ความรู้และประสบการณ์ทางด้านการผลิตเกษตรกรจะมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ทีมนักวิชาการเราแค่นำองค์ความรู้ทางวิชาการมาช่วยจัดการบริหารกลุ่ม เพื่อต่อยอดให้สินค้าของเกษตรกรมีคุณภาพมากขึ้น มีระบการจัดการที่ดี มีรายได้ และสามารถต่อรองราคาด้านการตลาดได้มากกว่าเดิม เหมือนเราได้แลกเปลี่ยนกัน เพราะชาวบ้านมีองค์ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการปลูกผักอยู่แล้ว ซึ่งเราจะเข้าไปช่วยในเรื่องของกระบวนการ เช่น ให้ชาวบ้านรู้จักการวิเคราะห์ปัญหา ทำอย่างไรถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ชาวบ้านไม่มีการรวมกลุ่ม หรือมีการรวมกลุ่ม แต่ไม่มีการปันผล ผลผลิตก็จะส่งขายให้กับพ่อค้าคนกลางแล้วรับเงินมา มันสะดวกและเร็วกว่า แต่ปัญหาคือราคาของผักขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลางเป็นคนคุมราคา เราเลยกลับมาวิเคราะห์ว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านขายในราคาที่สูงขึ้นจากผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า หรือจะทำอย่างไรให้สินค้าของเกษตรสามารถนำไปขายในห้างสรรพสินค้าได้
การดำเนินโครงการได้รับสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และร่วมดำเนินงานโดยสถาบันวิจัยและพัฒนา, คณะเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาธาตุพนม มหาวิทยาลัยนครพนม โดยมีกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่เป็นนักวิจัยร่วม ซึ่งมีแม่บังอร ภิญโญพันธ์ เป็นประธานกลุ่ม เพราะสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มองว่า งานวิจัยในการพัฒนาพื้นที่หรือชุมชนหรือชาวบ้านนี้ จะช่วยให้ชาวบ้านเข้าใจถึงปัญหาและหาแนวทางแก้ไขด้วยตนเอง ประกอบกับประสบการณ์ของเกษตรกรที่มีอยู่แล้ว

การรวมกลุ่มของเกษตรครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันกับนักวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน โดยมหาวิทยาลัยนครพนมทำหน้าที่ส่งเสริมความรู้ทางวิชาการ กระบวนการผลิต การหาแหล่งทุน ช่องทางการตลาด และการประชาสัมพันธ์ ถ่ายทอดองค์ความรู้มาให้กับสมาชิกกลุ่ม รวมถึงแหล่งทุน เราช่วยเรื่องการตลาด สื่อสาร การสร้างภาพลักษณ์ให้กับกลุ่มเกษตรกร ที่นี่เป็นผักปลอดสารเคมี มีผลิตภัณฑ์คุณภาพและปลอดภัย ปัจจุบันเราได้แหล่งตลาดใหญ่ที่ยกระดับกลุ่มเกษตรกร นั่นก็คือห้างสรรพสินค้า แรก ๆ อาจมีคำถามถึงความมั่นใจของโครงการจากสมาชิกบางคน แต่วันนี้เราทำประสบความสำเร็จแล้ว น่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกกลุ่มของเรา เพราะขณะนี้เรามีเกษตรกรที่มาร่วมกลุ่มเป็นสมาชิก กว่า 50 คน
นางบังอร ภิญโญพันธ์ ประธานกลุ่มสมาชิกเกษตรริมโขง กล่าวเพิ่มเติมว่า กระบวนการผลิตพืชผักของสมาชิกกลุ่มในปัจจุบัน เน้นการใช้ชีวภัณฑ์ น้ำหมัก หรือปุ๋ยหมักจากชีวภาพทั้งหมด นำวิถีเกษตรพอเพียงกลับมาสู่เกษตรปลอดภัย พืชบางตัวผ่านการรับรองเกษตรปลอดภัย (GAP) เช่น มะเขือเทศ สลัด หอมแบ่ง ต้นหอม และมะเขือเทศสีดา เป็นต้น

กลุ่มลูกค้าของเรายังเป็นตลาดในชุมชนที่มีความต้องการสูง และมีห้างสรรพสินค้าบางส่วน ถือเป็นการยกระดับของกลุ่มเกษตรเรา สามารถควบคุมการผลิต ควบคุมราคาได้ด้วยตนเอง และข้อดีของสินค้ากลุ่มเรา คือ ผักทุกชนิดสามารถคงทนและเก็บรักษาได้นาน เนื่องจากเราไม่ได้เน้นสารเคมีในกระบวนการผลิต

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน