X

นครพนมเร่งแจกจ่ายหญ้าพระราชทานช่วยวัวควาย หลังน้ำอูน-น้ำสงครามเอ่อล้นท่วมพื้นที่เกษตรอย่างหนัก

นครพนม : อำเภอศรีสงครามเร่งนำหญ้าพระราชทานออกแจกจ่าย หลังน้ำอูน และน้ำสงคราม ยังคงเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่เกษตรและทุ่งหญ้า กระทบวัวควายขาดแคลนอาหารอย่างหนัก

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 67 ที่ จ.นครพนม  ถึงแม้ระดับน้ำโขงจะลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 9.94  เมตร ห่างจากจุดล้นตลิ่งประมาณ 2 เมตร ในช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมาหลังระดับน้ำโขง ขึ้นสูงสุดเกือบ 11 เมตร ได้เริ่มลดระดับต่อเนื่องวันละประมาณ 20 -30 เซนติเมตร แต่ยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ คือ พื้นที่โซนเหนือ อ.ศรีสงคราม เป็นหลัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดกับลำน้ำอูน ไหลมาบรรจบ ลำน้ำสงคราม แม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง หลังน้ำโขงสูง ทำให้ไหลระบายลงน้ำโขง ช้า ส่งผลให้มีปริมาณน้ำเกินความจุ เอ่อล้น เข้าท่วมพื้นที่นาข้าว และพื้นที่ลุ่มเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ทำให้ เกษตรกรไม่มีพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ต้องอพยพ วัว ควาย ไปเลี้ยงในที่สูงทำให้ได้รับผลกระทบขาดแคลนอาหารอย่างหนัก

ล่าสุดนางสาวกรณ์กาญจน์ แก้วดี นายอำเภอศณีสงคราม พร้อมด้วยปศุสัตว์จังหวัด ร่วมกับปศุสัตว์อำเภอ และอาสาปศุสัตว์ รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์นครพนม ได้นำ หญ้าอาหารสัตว์อัดแท่ง  พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 8,000 กิโลกรัม ออกแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อเป็นการช่วยเหลือ ในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งในพื้นที่บ้านท่าบ่อสงคราม มี ประชาชน 85 ราย และสัตว์เลี้ยงโคกระบือ จำนวน 785 ตัว ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ ซึ่งผู้เลี้ยงยังขอสนับสนุนหญ้าแห้งได้ต่อเนื่อง  นอกจากนี้ยังได้แจกเวชภัณฑ์รวมถึงให้ความรู้ เครื่องป้องกันโรคระบาดในสัตว์เลี้ยง เสี่ยงเป็นโรคปอดบวมและท้องเสีย โดยให้เกษตรกรเฝ้าระวัง สัตว์ที่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด หากพบผิดปกติ ให้แจ้งอาสาปศุสัตว์หรือปศุสัตว์ตำบลปศุสัตว์อำเภอใกล้บ้านทันที

ขณะเดียวกัน นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ระดมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจ ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น มอบถุงยังชีพ พร้อมประสาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจความเสียหาย เพื่อจะได้จัดสรรงบประมาณ ไปชดเชยเยียวยา ตามระเบียบทางราชการ และดูแลให้ความช่วยเหลือทุกด้าน และยังประกาศให้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชายแดน ติดน้ำโขงและลำน้ำสาขาให้ เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง หากมีฝนตกลงมาซ้ำอีก จะส่งผลให้ลำน้ำสาขา มีมวลน้ำไหลมาสมทบมากขึ้น อาจส่งผลกระทบซ้ำอีก  โดยคาดว่าจะต้องมีการเฝ้าระวัง ไปจนถึงสิ้นเดือน กันยายนเนื่องจากยังคงมีฝนตกสะสมในพื้นที่แทบทุกวัน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน