แม่หัวใจสลาย ลูกสาววัย 28 ปี กระโดดน้ำฆ่าตัวตายกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางความสงสัยของครอบครัวและญาติที่ไม่เชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากการถูกหลอกให้ลงทุนออนไลน์ตามคำอ้างของแฟนหนุ่ม
เรื่องราวเต็มไปด้วยปมปริศนาเมื่อพบหลักฐานตั๋วจำนำทองหลายใบในกระเป๋าของผู้เสียชีวิต พร้อมกับบรรยากาศความเศร้าโศกที่บ้านเกิดในนครพนม ญาติยังคาใจสาเหตุการตายและต้องการคำตอบที่ชัดเจน ติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ที่ยังเต็มไปด้วยคำถาม!
จากกรณี น.ส.สุดารัตน์ บัวแสน อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดนครพนม กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ขณะเรือลอยลำกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะที่สาวรายนี้กระโดดน้ำผู้มีพบเห็นบนเรือและได้โยนห่วงยางเพื่อช่วยเหลือ แต่ผู้ตายปฏิเสธโดยการปัดห่วงยางออก ก่อนหมดแรงจมหายไป ขณะที่ในกระเป๋าพบตั๋วจำนำทอง 3 ใบ แบ่งเป็นใบละ 1 แสนบาท ใบละ 5 หมื่นบาท และใบละ 4.2 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 192,000 บาท นอกจากนี้ยังพบใบนำฝากเงินของธนาคารแห่งหนึ่งที่ผู้ตายเพิ่งนำเงินสดไปฝากเข้าธนาคารในช่วง 13.30 น. อีก 1 ใบ 142,000 บาท เหตุเกิดเวลา 17.00 น.วันที่ 6 ก.ย.2567 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เวลา 17.00 น. วันที่ 7 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม พบนางสมหวัง บัวแสน อายุ 56 ปี แม่ น.ส.สุดารัตน์ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ทั้งคู่เป็นแฟนกันยังไม่ได้แต่งงาน รอแค่ลูกสาวและญาติฝ่ายชายมาจัดพิธีสู่ขอแต่งงานตามประเพณีแค่นั้น ส่วนสาเหตุที่ลูกสาวกระโดดน้ำตายนั้น หากลูกสาวและว่าที่ลูกเขยมีปัญหาอะไร ลูกเขยยังโทรศัพท์มาบอกตนและผู้เป็นว่าอยากได้อะไร จะไปหาซื้อมาให้หมด ส่วนลูกสาวก็น่าจะมาเล่าให้ตนฟังว่ามีปัญหาอะไรกัน และหาทางออกไม่ได้จึงกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย
นางสมหวัง แม่ผู้ตาย กล่าวร่ำไห้ต่อไปว่า มีรางสังหรณ์ใจหลังรับหลานมาจากโรงเรียน ช่วงใกล้ค่ำจึงรับโทรศัพท์หาลูกสาว ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่รับสายบอกให้ทำใจ ตอนนี้นำร่างขึ้นมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว เจ้าหน้าที่คนเดิมยังยังบอกว่ากระเป๋าวางอยู่ตรงนี้ พร้อมถ่ายบัตรประชาชนของลูกสาวให้ดู จึงเรียกหลานมาดูปรากฏว่าใช่จริงๆ หลังทราบข่าวจึงตั้งตัวไม่ถูกและรับไม่ได้ หัวใจแม่ถึงกับสาย หลังทราบลูกสาวเสียชีวิตสติแตก เพราะเป็นเสาหลักของครอบครัว มีลูก 2 คน คนโตเป็นหญิงมีลูกไม่มีสามีแต่มีลูก 2 คน คนที่เสียชีวิตเป็นคนเล็ก คอยหาเงินรักษาตอนที่ตนป่วยก็คนที่เสียชีวิตนี้
นายพงศธร ดีโคตร อายุ 53 ปี อดีตรองนายก อบต.ไผ่ล้อม ซึ่งเป็นน้าเขยผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเลี้ยง น.ส.สุดารัตน์ ผู้ตายมาแต่เล็กรู้นิสัยดี หลานมีความตั้งใจที่จะหาเงินมาไถ่ถอนที่ดินให้คุณแม่ ซึ่งนำไปจำนองไว้เป็นเงินจำนวน 1 แสนกว่าบาท โดยหลานนัดหมายกับผู้เป็นแม่จะนำเงินไปไถ่ถอนที่ดินในวันที่ 20 ก.ย.67 ที่จะถึงนี้ แต่ก็มาเกิดเหตุสลดขึ้นเสียก่อน ที่คาใจและสงสัยทำมั้ยหลานจึงเอาทองไปจำนองถึง 3 ครั้งภายในวันเดียวกัน
น้าเขยผู้ตาย กล่าวต่อว่า ตนตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนหลังหลานส่งใบจำนำทองมาให้แม่ดู ช่วงเช้าก่อนจะเสียชีวิตหลานคนนี้โทรศัพท์มา มีน้ำเสียงจิตใจร่าเริงแจ่มใส กระทั่งช่วง 5 โมงถึงโมงเย็นได้ยินข่าวถึงกับช็อก ส่วนสาเหตุที่หลานเสียชีวิตน่าจะเกิดปัญหาภายในครอบครัวกับฝ่ายแฟนหนุ่ม ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่แน่ใจในข้อมูลที่ฝ่ายชายที่ออกมาพูดว่าหลานสาวถูกหลอกออนไลน์ หรือถูกแก๊งมิจฉาชีพดูดเงินไปจากบัญชีมันต้องมีหลักฐาน หากเราได้ดูหลักฐานก็ไม่ติดใจ หากไม่มีหลักฐานตามที่พูดก็ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ ซึ่งทางญาติพี่น้องยังคาใจ เพราะเป็นฝ่ายสูญสียซึ่งญาติยังทำใจไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศที่บ้านใน ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม สถานที่จัดงานศพ เป็นไปอย่างเศร้าสลด ส่วนศพ น.ส.สุดารัตน์ หลังแพทย์ชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตเสร็จ อยู่ระหว่างเดินทางนำร่างมาตั้งประกอบพิธีศาสนาที่บ้านพัก คาดว่าจมาถึงในเวลา 23.00 น.คืนนี้ (7 ส.ค.67) และจะมีพิธีฌาปนกิจเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ก.ย.2567 ต่อไป
