จากกรณีนางเกียน ลี้พล อายุ 68 ปี ผู้ป่วยติดเตียงชาวบ้านนาขาม ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม ได้เสียชีวิตลงโดยญาติเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากการที่ถูกตัดกระแสไฟฟ้าเนื่องจากติดค้างค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้าภูมิภาค เป็นเวลา 2 เดือน ทำให้ไม่สามารถใช้เครื่องผลิตออกซิเจนได้ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในคืนวันที่ถูกตัดกรแสไฟฟ้าจนญาติผู้เสียชีวิตได้ร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนางเกียน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่บ้านของนางเกียน ที่นาขามต.วังยางอ.วังยาง จ.นครพนม โดยญาติได้นาศพนางเกียน มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมากโดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า และต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสาเหตุการตายของนางเกียนไปต่าง ๆ นาๆ
โดยหนึ่งในผู้ที่มาร่วมงานศพมีนายทวี สราญรมย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครพนม ก็ได้เดินทางมาร่วมงานศพด้วย โดยนายทวี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าถือเป็นบทเรียนบทหนึ่งของการไฟฟ้าในการบริการประชาชน โดยที่ผ่านมาทางการไฟฟ้าได้มีการประชาสัมพันธ์ในสื่อโซเชียลแต่อาจไม่ทั่วถึง ทำให้ชาวบ้านไม่เข้าใจถามว่าทางเราผิดเลยเหรอ บางทีคนทำงานด้านบริการก็โดนสังคมต่อว่า แต่ก็ไม่เป็นไรขอน้อมรับทุกคอมเมนต์จากทุกสื่อและพร้อมที่จะนำไปปรับปรุง โดยที่ผ่านมาอาจจะขาดตกบกพร่องในเรื่องข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จนเกิดเหตุผิดพลาดขึ้น และวันนี้ทางนายอำเภอวังยางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นัดหารือกันยังที่ว่าการอำเภอวังยาง เพื่อหาแนวทางการแก้ไขและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ไฟเข้าใจระเบียบและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้นำชุมชนได้รับทราบและนำไปประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบต่อไป
ขณะที่นายธีระวัฒน์ เดชโม อายุ 32 ปี พนักงานบริษัทเอกชนที่มายกมิเตอร์ไฟฟ้าไปจากบ้านของนางเกียน กล่าวว่า วันนั้นตนไปถอดหม้อช่วง 9 โมงครึ่ง ญาติไปจ่ายเงินตอน 10 โมง ตนจึงไปใส่หม้อคืนให้ช่วง 11 โมงของวันเดียวกัน มาทราบอีกทีจากญาติว่าคุณยายเสียชีวิตประมาณช่วงตี 2 รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้จริง ๆ ว่าในบ้านหลังนี้มีผู้ป่วยติดเตียง ถ้าตนรู้ข้อมูลก็คงไม่ตัดกระแสไฟฟ้าของนางเกียนเด็ดขาด
ด้านนางสุธาริณี ศรีเสน อายุ 42 ปี หลานสะใภ้ยายเกียน ผู้ตาย เปิดเผยว่า วันที่เจ้าหน้าที่มายกหม้อไฟตนก็อยู่และเห็นเหตุการณ์ตลอด โดยคนที่มาตัดไฟบอกตนให้ไปเสียค่าไฟฟ้าที่ค้าง และหลังจากเสียค่าไฟแล้วจะมาติดหม้อไฟให้ใหม่ ขณะนั้นมีคุณยายบ้านข้าง ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ด้วยเช่นกัน ก็ตะโกนบอกกับพนักงานตัดหม้อไฟว่าในบ้านมีคนป่วยติดเตียงอยู่อย่าเพิ่งถอดหม้อไปเลย แต่พนักงานเอกชนคนดังกล่าวเขาไม่ฟังตรงไปตัดหม้อไฟแล้วรีบออกไปโดยทันที
นางสุธาริณี กล่าวอ้างว่า หลังจากถูกยกหม้อไฟไปคนป่วยก็นอนอยู่แบบนั้น อุปกรณ์ที่ต้องใช้ไฟฟ้ามีเครื่องช่วยหายใจเครื่องผลิตออกซิเจน เตียงลมและเครื่องดูดเสมหะ หลังจากถูกยกหม้อไฟก็ไม่สามารถใช้งานได้อีก ตนจึงรีบให้หลานชายขี่รถ จยย. เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าไฟทันทีแต่เนื่องจากที่ทำการไฟฟ้าอยู่ห่างจากบ้านกว่าสิบกิโลเมตรจึงเสียเวลาไปมาก ซึ่งทางญาติได้รวบรวมเงินกันเพื่อนำมาจ่ายค่าไฟรวม 2 เดือน เป็นเงิน 1,150 บาท จากนั้นอีก 1 ชั่วโมงต่อมา พนักงานคนเดิมที่ยกหม้อไฟไปก็มาติดตั้งคืนให้
ญาติพี่น้องยายวัย 68 ปีอีกราย กล่าวว่า ยายเกียนป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ พนักงานมายกหม้อไฟไปโดยไม่ถามเหตุผลทำให้ลูกหลานยายรับไม่ได้ ก่อนจะตัดไฟน่าจะเดินมาถามบ้างว่ามีผู้ป่วยอยู่ในบ้านหรือไม่ รู้สึกเสียใจและสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เคยเห็นแต่เคสอื่นไม่คิดว่าจะเจอกับครอบครัวของตนเอง
สำหรับไทม์ไลน์การยกมิเตอร์ตัดไฟบ้านยายเกียนผู้เสียชีวิต จากข้อมูลการไฟฟ้า พบว่า มีการตัดไฟยกหม้อมิเตอร์ไฟฟ้าวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 9 นาฬิกา 20 นาที และมีการชำระเงินในระบบเวลา 10 นาฬิกา 49 นาที และมีเจ้าหน้าที่มาติดตั้งคืนเวลา 11 นาฬิกา 49 นาที รวมเวลาที่ไฟฟ้าดับ 2 ชั่วโมง 29 นาที
ส่วนการค้างชำระค่าไฟจากข้อมูลย้อนหลัง บ้านผู้เสียชีวิตได้รับการยกเว้นค่าไฟฟ้ามานานกว่า 7 เดือน เนื่องจากอยู่ในเกณฑ์ผู้ใช้ไฟที่รัฐบาลช่วยเหลือ คือไม่เกิน 315 บาท แต่เริ่มมียอดเกินต้องชำระ ในช่วงที่ต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์ทำให้หน่วยค่าไฟสูงขึ้นเกินจากเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนด คือ เดือนเมษายน เป็นเงิน 348 บาท /เดือนพฤษภาคม 2567 เป็นเงิน 350 บาท /สิงหาคม 2567 เป็นเงิน 620 บาท และ เดือนกันยายน 2567เป็นเงิน 534 บาท
เพิ่มเติมอีกว่า สำหรับปัญหาการยกหม้อแปลงตัดไฟ ถือเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อน ให้กับประชาชนในพื้นที่ มีการเรียกร้องผ่านสื่อประจำ เพื่อให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีมาตรการดูแลช่วยเหลือ พิจารณาเป็นรายบุคคล ตามความเหมาะสม เพราะบางรายมีความจำเป็น โดยไม่มีเจตนาเบี้ยวค่าไฟ แต่บางครั้งมีปัญหาเกี่ยวกับระบบจ่ายค่าไฟผ่านแอพพลิเคชั่น รวมถึงบิลค่าไฟไม่ถึงผู้ใช้ไฟ จึงมีการชำระล่าช้า แต่ผู้รับจ้างเอกชน ไม่สนใจฟังเหตุผล อ้างทำตามหน้าที่ เพราะมีค่าตอบแทนในการตัดยกหม้อไฟ ถึงรู้ว่าเกินกำหนดจ่ายเพียงแค่ชั่วโมงเดียว ยังตัดไฟเพราะได้ค่าตอบแทน ทั้งที่ชาวบ้านยอมจ่ายค่าปรับตามระเบียบ แต่ยังยืนยันที่จะยกหม้อไฟฟ้า โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อธุรกิจการค้า รวมถึงคนที่เจ็บป่วย ที่ต้องใช้เครื่องมือแพทย์ช่วยเหลือ
