นครพนม : ผญบ. โดนเอง ขอออกโฉนด แต่ถูกนายทุนอ้างทับที่ ขอตรวจสอบระวาง จนท.อ้างหาย บุกร้องศูนย์ดำรงธรรม สุดท้ายเจอซุกในห้องเก็บของ จี้ที่ดินเร่งออกโฉนด
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 เวลา ประมาณ 10.30 น. ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขาท่าอุเทน นายพันธ์ ชมพูพระ ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยพระ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ได้เดินทางมาพร้อมด้วยทนายความคือนาย ณ พล ใบเงิน เพื่อยื่นหนังสือถึงที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทน เพื่อขอให้ทางที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนเพิกถอนคำคัดค้านในการขอออกโฉนดของบริษัทเกษตรปิยมิตร จำกัด และขอให้ดำเนินการออกโฉนดให้แก่ตนเองตามที่ได้ยื่นเรื่องขอไว้ อีกทั้งยังขอให้เพิกถอน นส.3 ก.ที่ทางบริษัทเกษตรปิยมิตรนำมาเป็นหลักฐานร้องคัดค้านการขอออกโฉนดของตนต่อไป
โดยนายพันธ์ ชมพูพระ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้นำนส.3 ก. เลขที่ 1132 เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ 2 งานซึ่งตั้งอยู่บน ระวางภาพถ่ายทางอากาศชื่อ MUONG HINBOUN หมายเลข 5944 III แผ่นที่ 143 มายื่นเรื่องขอออกโฉนดที่ดินกับสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทน เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการออกรังวัดและตรวจสอบกับที่ดินข้างเคียงแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 บริษัทเกษตรปิยมิตร โดยนายสถาพร ชัยเสนา เป็นผู้รับมอบอำนาจ ได้ยื่นเรื่องขอคัดค้านการรังวัดขอออกโฉนดในที่ดินแปลงดังกล่าว โดยอ้างว่ามีที่ดิน เป็นเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก.เลขที่ 2248 ระวางภาพถ่ายทางอากาศชื่อ MUONG HINBOUN หมายเลข 5944 III แผ่นที่ 156 ซึ่งอยู่ติดกันกับที่ดินแปลงดังกล่าวของตน และมีที่ดินบางส่วนทับซ้อนกับที่ดินของตนเป็นเหตุให้เจ้าหนาที่รังวัดได้ยุติการดำเนินการออกโฉนดให้กับตน
ต่อมาตนได้ขอตรวจสอบระวางภาพถ่ายทางอากาศของ เอกสารสิทธิ์ นส.3 ก.ทั้งสองฉบับ กับเจ้าหน้าที่รังวัดสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทน คือแผ่นที่ 143 ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ดินตนเองกับ แผ่นที่ 156 อันเป็นที่ตั้งของ นส.3 ก. ของบริษัทเกษตรปิยมิตรที่นำมาร้องคัดค้านการขอออกโฉนดของตน ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่แจ้งว่าระวางดังกล่าวทั้งสองแผ่นได้สูญหายไปจากสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทน โดยไม่ทราบว่าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วก็นำเรื่องขอออกโฉนดของตนเก็บเข้ากองกลางไม่ดำเนินการต่อ ตนจึงได้เดินทางไปร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนพร้อมเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการรักษาเอกสารของทางราชการ ซึ่งเบื้องต้นได้รับแจ้งจากนายพรประเสริฐ ศรีอุดร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทน ว่าระวางดังกล่าวทั้ง 2 แผ่นได้สูญหายไปจริงและจะดำเนินการทำเรื่องขอคัดถ่ายใหม่จากกรมที่ดิน และตั้งกรรมการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาเอกสารดังกล่าว ต่อมาตนได้รับแจ้งจากศูนย์ดำรงธรรมว่า ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนได้แจ้งมาว่าพบเอกสารระวางภาพถ่ายทางอากาศทั้งสองแผ่นแล้ว ไม่ได้สูญหายไปไหน แต่มีคนนำไปวางไว้บนตู้เก็บเอกสาร ในห้องเก็บของ และให้ตนไปขอคัดถ่ายระวางภาพถ่ายทางอากาศดังกล่าวได้ ตนจึงเดินทางไปขอคัดถ่ายสำเนาของระวางทั้งสองแผ่นทันที่ และหลังจากได้ตรวจสอบระว่างแล้วไม่พบรูปแปลงของ นส. 3 ก. หมายเลข 2248 ปรากฦฎอยู่ในระวางทั้งสองแผ่นแต่อย่างใดพบแต่รูปแปลง นส.3 ก.เลขที่ 1132 ของตนปรากฎอยู่ในระวางแผ่นที่ 143 เท่านั้น ซึ่งแสดงว่า ที่ดินของตนไม่ได้ทับซ้อนกับที่ดินของบริษัทเกษตรปิยมิตรแต่อย่างใด จึงเดินทางมาร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนดำเนินการออกโฉนดให้ตนต่อไป1
ด้านนาย ณ พล ใบเงินทนายความ ของนายพันธ์ ชมภูพระ เปิดเผยว่า จากการพิจารณาหลักฐานของ นส.3 ก.ทั้งสองฉบับแล้ว จะเห็นว่า น.ส.3 ก.ที่นายพันธ์ ถือครองอยู่คือหมายเลข 1132 แผ่นที่ 143 มีรูปแปลงปรากฎอยู่ในระวางภาพถ่ายทางอากาศตรงตามตำแหน่งในระวาง ส่วนนส.3ก.หมายเลข 2248 ที่ตัวแทนของบริษัทเกษตรปิยมิตรนำมาคัดค้านนั้น ไม่ปรากฎว่ามีรูปแปลงอยู่ในระวางทั้งสองแผ่น แสดงว่าตำแหน่งของ นส.3 ก.เลขที่ 2248 ยังไม่ปรากฎแน่ชัดว่าอยู่ที่ไหน เพราะไม่ปรากฎอยู่ในระวางทั้งสองแผ่นเบื้องต้นหากไม่ทราบตำแหน่งที่แท้จริง ก็ต้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวนั้นเสียเนื่องเพราะเป็นการออกเอกสารโดยมิชอบ ซึ่งผู้ขอออกเอกสารแปลงดังกล่าวมีการครอบครองเอกสารสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่หลายแปลงและได้ถูกอธิบดีกรมที่ดินสั่งเพิกถอนไปก่อนหน้านี้แล้วหลายแปลง การที่เจ้าหน้าที่รับคำร้องคัดค้านการขอออกโฉนดของตัวแทนบริษัทเกษตรปิยมิตรที่นำเอาเอกสารสิทธิ์ ที่อาจออกโดยมิชอบมาแสดงกับเจ้าหน้าที่โดยไม่ตรวจสอบและไม่ดำเนินการใด ๆ ต่อ ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาเกือบปีทำให้นายพันธ์ ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ดังนั้นเมื่อปรากฎหลักฐานชัดเจนแล้วก็ใคร่ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการออกโฉนดให้กับนายพันธ์ ชมภูพระ โดยเร็วต่อไปและพิจารณาเพิกถอนเอสารสิทธิ์ ของบริษัทเกษตจรปิยมิตรที่นำมากล่าวอ้างต่อไป
