เมื่อเวลา 04.10 น. ของวันที่ 5 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่านาราชควายน้อย หมู่ 5 ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม ว่า มีผู้ป่วยจิตเวชเกิดอาการคุ้มคลั่งอาละวาดทำลายข้าวของ จึงได้เดินทางลงพื้นที่ทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าบ้านเกิดเหตุเป็นของนางสงวน ทิพย์ม่อน ซึ่งเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ มีผู้ใหญ่บ้านและเพื่อนบ้านมาช่วยกันระงับเหตุ โดยนางนางสงวน ทิพย์ม่อน ได้เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุคือนายสมควร ทิพย์ม่อน อายุ 42 ปี เป็นลูกชายของตนเอง โดยก่อนหน้านี้สามวันสามีของตนเพิ่งเสียชีวิตและอยู่ระหว่าการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ผู้ตายโดยนายสมควร ก็ได้บวชหน้าไฟเพื่อจูงศพผู้เป็นบิดาตามประเพณี แต่ไม่คิดว่า ลูกชายจะเกิดอาการคุ้มคลั่งอาละวาดทุลทำลายข้าวของภายในบ้านพร้อมตะโกนด่าคนที่เข้าใกล้ด้วยถ้อยคำหยาบคายตลอดเวลาหลังจากสึกออกมา โดยก่อนหน้านี้นายสมควร มีพฤติกรรมเสพยาบ้าเคยเข้ารับการบำบัดยาเสพติดมาจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่เมื่อถูกปล่อยตัวออกมาก็มีพฤติกรรมเหมือนเดิม วันนี้ก็อาละวาดเช่นกันซึ่งเป็นงาน ทำบุญให้กับคุณพ่อของผู้ก่อเหตุเองโดยเริมมีอาการตั้งแต่หัวค่ำจนถึงกลางดึก ซึ่งชาวบ้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองให้ช่วยมาระงับเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ไม่มา โดยอ้างว่าเป็นยามวิกาลขอเข้าตรวจสอบตอนเช้า ชาวบ้านรอไม่ไหวจึงช่วยกันบุกเข้าจับตัวนายสมควร และมัดไว้ขณะที่นายสมควร อ่อนเพลียละเผลอหลับไป
นายขัน พลชาลี อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านนาราชควายน้อย เปิดเผยว่า หลังงานศพของพ่อ นายสมควร ก็ยังพูดจารู้เรื่อง แต่หลังจากมีการดื่มกินกันก็เริ่มเกิดอาการคุ้มคลั่งด่าทอคนอื่นด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมทุบทำลายข้าวของภายในบ้าน หลังทราบเหตุตนก็ขอแรงชาวบ้านช่วยกันบุกเข้าจับตัวนายสมควรมัดไว้ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่มารับตัว เนื่องจากหากปล่อยไว้อาจออกมาทำร้ายคนอื่นได้
นายดนัย อายุ 70 ปี เพื่อนบ้านของนายสมควร เปิดเผยว่า ปกตินายสมควรมักจะมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ตลอดโดยก่อนหน้านี้ก็ได้เข้ารับการบำบัดมาหลายครั้ง หลังงานศพนายสมควรก็มีอาการคุ้มคลั่งอาละวาด ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ไปจนถึงตีหนึ่งตีสอง โดยชาวบ้านได้แจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาระงับเหตุแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่มา ซึ่งขณะนั้น ผู้ป่วยจิตกำลังอาละวาด ชาวบ้านก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ ซึ่งขณะอาละวาดผู้ป่วยจิตอยู่ภายในบ้านคนเดียวเอะอะโวยวายด่า ทอด้วยคำหยาบคาย และทุบกระจกหน้าต่าง พร้อมหยิบตาลปัตรของพระสงฆ์มาเขียน เพื่อระบายอารมณ์ ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้ช่วยและชาวบ้าน จึงวางแผนบุกเข้าอาศัยตอนผู้ก่อเหตุเผลอ จับตัวและมักแขนมัดขาไว้ และรอส่งให้เจ้าหน้าที่ ในตอนเช้า
