นครพนม : แม่เด็ก 14 แฉอีกวีรกรรม 2 ใน 9 แก๊งเยาวชนรุมฆ่าเด็ก 16 ขู่จะปลิดชีพลูกคนสุดท้อง ต้องอยู่อย่างผวามากว่า 2 ปี ขณะตำรวจแจ้งข้อกล่าวหากลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว
จากกรณีเยาวชนอายุ 15-18 ปี ก่อเหตุใช้ไม้เบสบอลและอาวุธมีดพร้า ก่อเหตุรุมทำร้ายนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เปิดร้านซ่อมรถ จยย.จนเสียชีวิต เหตุเกิดเวลา 01.00 น. วันที่ 26 ต.ค.67 ริมถนนข้างบ้านผู้ตาย ก่อนเสียชีวิตที่ รพ.นครพนม วันที่ 27 ต.ค.67 ก่อนทนายความศูนย์พิทักษ์รักษ์ประชาชน พาแม่ผู้ตายร้องศูนย์ดำรงธรรม หวั่นคดีไม่คืบเนื่องจากผู้ก่อเหตุในนั้น เคยก่อเหตุฆ่าคนตายมาก่อนหน้านี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันที่ 30 ต.ค.67 นางประสงค์ (ขอสงวนสกุล) อายุ 56 ปี แม่นายเอ อายุ 16 ปี เปิดเผยว่า คนร้ายกลุ่มนี้ เคยร่วมกันก่อเหตุฆ่าคนตายที่บ้านนางัวกลาง ม. 2 ต.นางัว แต่ทราบว่าคนร้ายกลุ่มนี้ได้พ้นโทษออกมาจากสถานพินิจ และหวนมาก่อเหตุกับลูกชายตนอีก เกรงว่าจะไม่ได้ความเป็นธรรม จึงต้องไปร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรม และบอกว่าจะไม่เผาศพลูกชาย จนกว่าคดีจะคืบหน้านั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม ปิดฉากคดีตากใบ ปลัด อ.ท่าอุเทน โผล่ทำงานวันแรก
- ร้องผ่านสื่อ นายหน้าเถื่อนยังไม่หยุดหลอกชักชวนแรงงานทำงานที่อเมริกาทั้งที่ถูกแจ้งความแล้ว
- "ชายวัย 25 ถูกจับทันควัน หลังรักษาตัวจากถูกพระฟันแขนขาด พบหมายจับคดีลักทรัพย์ติดตัวเพียบ"
- ตั้งกรรมการสอบ ปลัดอำเภอท่าอุเทน หลังคดีหมดอายุความ จ่อฟันวินัยหลังใบลาถูกยกเลิก
แม่หนุ่ม 16 กล่าวต่อว่า ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านให้คำปรึกษา บอกว่าลูกชายเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จะนำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพักนานไม่ได้ อาจจะเกิดสายใยทำให้ครอบครัวต้องมีอันเป็นไป ตามประเพณีโบราณในพื้นที่จึงตัดสินใจจะนำร่างลูกชายไปฝังที่ป่าช้าบ้านนางัว ซึ่งจะเคลื่อนร่างไปประกอบพิธีในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนคดีความปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่นางบุญเลิศ อุปเสน อายุ 43 ปี แม่ของ ด.ช.ณัฐวุฒิ หรือ น้องนิว ที่มาร่วมเคารพศพหนุ่ม 16 ที่เสียชีวิตล่าสุด เปิดเผยว่า คนร้ายใน 9 คนที่ก่อเหตุใช้ไม้เบสบอลและอาวุธมีดพร้า รุมฆ่านายเอ ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ มี 2 คนที่อยู่ในพื้นที่ ต.ไผ่ล้อม เคยก่อเหตุฆ่าน้องนิว เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ก.พ.2566 เหตุเกิดที่สามแยกบ้านพืชผล ต.ไผ่ล้อม โดยวันนั้นคนร้าย 11 คนร่วมกันก่อเหตุใช้เหล็กแป๊ปกลม ตะขอ มีด รุมทำร้ายลูกชายวัย 14 ขวบ ขณะนั้นยังเรียนอยู่ชั้น ม.3 เสียชีวิตคาที่
แม่น้องนิว กล่าวต่อว่า ตำรวจจับคนร้ายได้ทั้งหมด 11 คน ในจำนวนนั้นมี 2 ที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าช่างซ่อมรถจักายานยนต์วัย 16 ปีในครั้งนี้ ร่วมอยู่ด้วยคือนายเท่ห์ ขณะนั้นอายุ 16 ปี ปัจจุบันอายุ 18 ปีซึ่งถูกตำรวจส่งศาลฝากขังและคัดค้านการประกันตัว อีกคนคือนายโฟค์ ที่ประกาศลั่นใต้ถุนบ้านผู้ตาย ก่อนก่อเหตุรุมยำฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เหตุการณ์ครั้งนั้นยังไม่ลืมเลือนจางหายจนถึงทุกวันนี้ กลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 11 คนได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเงิน 4.5 แสนบาท แต่ไม่สามารถทดแทนลูกชายที่เสียไปได้ หากตอนนี้ลูกชายยังมีชีวิตอยู่จะขึ้นชั้น ม.3 ขอให้เคสของหนุ่ม 16 ชื่อนิวเหมือนกันกับลูกชาย เป็นเหตุการณ์สุดท้าย ไม่อย่ากให้เกิดเหตุสลดในพื้นที่ขึ้นอีก เนื่องจากคนร้าย 2 ใน 9 คนเคยประกาศไว้ว่าถ้าออกจากสถานพินิจจะมาฆ่าน้องผู้เสียชีวิตคนสุดท้องอีก ซึ่งอีก 3 เดือนก็จะครบรอบวันที่ 7 ก.พ.2567 ที่ลูกชายเสียชีวิต ก็อโหสิให้กับคนที่ก่อเหตุในครั้งนั้น เพราะไม่อยากให้มีเวรมีกรรมกันต่อไปอีก
ด้าน น.ส.ปวริศา (ขอสงวนสกุล) อายุ 18 ปี ภรรยา นายเอ ที่ถูกทำร้ายเสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังเก็บเสื้อผ้าของสามีในตู้เสื้อผ้าช่วงบ่าย 3 โมงของวานนี้ (29 ต.ค.) ได้ยินเสียงขันน๊อตและใส่อะไหล่ซ่อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นรถแต่งซิ่งที่สามีรักมาก เขาก็ทำของเขาไปแต่ไม่เห็นตัวสามี ได้ยินแต่เสียงซ่อมรถ ตนจึงเรียกใส่สามีไปว่า “คิดถึงลูกคิดถึงเมียเหรอ คิดถึงก็มาหา”
ภรรยาวัย 18 ปี กล่าวต่อว่า สักพักลมก็พัดวาบมาบริเวณที่ตนยืนหลังโลงศพและใกล้รถจักรยานยนต์ คันนั้น ซึ่งตนก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เชื่อว่าวิญญาณสามีวัย 18 ปี ยังห่วงตนและลูกน้อยวัย 3 ขวบ จึงได้นำรถจักรยานยนต์ และเสื้อผ้าสามียัดใส่กระสอบสายออกมาตั้งไว้ข้างศพสามี เพื่อให้พระสงฆ์ 4 รูปสวดบังสุกุลให้แก่สามี ก่อนจะเคลื่อนร่างไปป่าช้าวัดป่านางัว ที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร
ต่อมาเวลา 13.30 น. ญาติ เพื่อนผู้ตายและเพื่อนภรรยา รวมทั้งชาวบ้านตั้งขบวนแห่ร่างเพื่อไปประกอบพิธีฝังที่ป่าช้า น.ส.ปวริศา ถือป้ายรูปสามียืนร้องไห้ฟูมฟายปิ่มในจะขาด ทันทีที่ถึงหน้าป่าช้า น.ส.ปวริศา ได้ร้องไห้หนักกว่าเดิมจนช็อกล้มทั้งยืน นางประสงค์ ผู้เป็นแม่พร้อมญาติและพยาบาล ต้องมาประคองหิ้วปีกนำยาดมให้สูดดม จนพระสงฆ์และผู้ร่วมพิธีร่วม 100 คน ประกอบพิธีฝังศพใช้เวลานานประมาณ1 ชั่วโมง น.ส.ปวริศา ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด
นายสมศรี ไชยภูวงศ์ อายุ 83 ปี ทวดผู้เสียชีวิตกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องนำร่างนายเอ ผู้ตายไปฝังตามประเพณีโบราณถือว่าตายไม่ปกติ หรือตายผิดธรรมชาติ ปัจจุบันนทันด่วน ฝังแล้วก็แล้วเลยเป็นประเพณีเผ่าไทญ้อ ส่วนศพอื่นที่เผาก็แล้วแต่เจ้าภาพ พร้อมกับนำก้านกล้วยมาตัดกรรมตัดเวร เพื่อทำพิธีตัดขาดกับภรรยาและครอบครัวตามความเชื่อของบรรพบุรุษ เพื่อไม่ให้มีเยื้อใยต่อกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลุมที่ใช้ฝังร่ายนายเอ ต้องใช้รถแบ๊กโฮเล็กขุดลึก 1.6 เมตร ซึ่งนางประสงค์ แม่ผู้ตาย ได้กระโดดลงหลุมศพ นำสิ่งของเครื่องใช้วางตกแต่งให้ลูกชาย พร้อมร่ำไห้สะอึกสะอื้นด้วยว่า “ตำรวจจะดำเนินคดีกับคนที่ทำลูกให้ถึงที่สุดไม่ต้องเป็นห่วงแม่” โดยญาติและผู้ร่วมงานต่างวางดอกไม้จันทร์ ท่ามกลางเพื่อนผู้ตายและเพื่อนภรรยาร่ำไห้น้ำตาด้วยความเศร้าโศก
ด้าน พ.ต.อ.สุนันท์ สร้อยสุด ผกก.สภ.บ้านแพง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีเด็ก 16 ว่า วันนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวเด็กไปแจ้งข้อหาต่อหน้าสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัด หลังสอบพยานไปฝั่งผู้ตายได้ 4-5 ปาก ถ้าญาติผู้เสียชีวิตมีพยานมาอีกเราก็จะสอบให้เรื่อย ส่วนผลชันสูตรจาก รพ.นครพนม ยังไม่ระบุว่าเสียชีวิตจากอะไรแน่ชัด ส่วนเด็กเยาวชนทั้ง 9 คนที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าคนตาย เมื่อปีที่แล้วตอนนั้นเป็นเยาวชน ขณะจับกุมตัวได้จำนวนหลายคน ตอนนี้อายุ 18 ปีซึ่งส่งฝากขังและคัดค้านการประกันตัวไปแล้ว
ผกก.สภ.บ้านแพง กล่าวต่อว่า กลุ่มแก๊งที่ก่อเหตุฆ่าเด็ก 16 เป็นเด็กแก๊ง ต.ไผ่ล้อม 2 ราย ที่เหลือในจำนวน 8 คน มีเด็กพื้นที่ อ.บึงโขงหลง 2 และเขตบ้านดงบัง อ.เซกา จ.บึงกาฬ ส่วนผู้ตายจะมีเรื่องบาดหมางกับผู้ก่อเหตุยังบอกไม่ได้เพราะอยู่สำนวนการสอบสวน ซึ่งไม่หนักใจกับการทำคดีนี้ จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนประวัติกลุ่มแก๊งต่างๆเรามีอยู่แล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: