จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน ม.11 บ้านนาคำ ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2567 หลังเพลิงสงบพบว่ามีบ้านเรือนถูกเพลิงเผาไหม้เสียหายทั้งหมดจำนวน 6 หลัง และเสียหายเพียงบางส่วนอีก 4 หลัง รวมทั้งสิ้น 10 หลังคาเรือน ซึ่งต่อมาทางหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานอาสาสมัคร อสม. รวมทั้ง หน่วยงาน อบท.ต.นาคำ ตั้งเต็นท์ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดหาอาหารและน้ำโดยทันที
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อสำรวจพื้นที่เกิดเหตุและสอบถามผู้ประสบภัยในครั้งนี้ พบว่าชาวบ้านกำลังโจษจันถึงเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุการณ์ ต่างไม่ค่อยพอใจในความล่าช้าจนทำให้ไฟลุกลามเสียหายกว่าที่ควรและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ขาดทักษะการใช้รถดับเพลิง
นายสมาน ป้องทอง อายุ 63ปี อดีต พนง.ดับเพลิง อทต.นาคำ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ไม่น่าจะลุกลามเสียหายมากมายขนาดนี้ หากทาง อทต. มีความเตรียมพร้อมเพื่อการระงับเหตุจริงๆ พร้อมให้ข้อสังเกตุว่าระยะทางจากสถานีดับเพลิงกับจุดที่เกิดเหตุห่างกันราว 5กม.ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียงไม่เกิน 5 นาที แต่ทำไมต้องใช้เวลานานราวเกือบครึ่งชั่วโมงจึงมาถึง และที่ซ้ำร้ายกว่านั้นเมื่อรถมาถึงเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดฉีดน้ำได้ ซึ่งตนได้ยินว่าในรถไม่มีน้ำและสายดับเพลิงรั่ว ทำให้เปลวเพลิงลุกลามจนลุกไหม้มาถึงบ้านของน้องสาวตนเสียหายพร้อมบ้านที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมดไปต่อหน้าต่อตา
