ตำรวจนครพนม สนธิกำลังฝ่ายปกครอง ทหาร รวบนักค้าคาริมโขงของกลาง 250,000 เม็ด พร้อมยึดทรัพย์มาตรวจสอบ
วันที่ 8 ธ.ค.67 ที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายนันทวิทย์ นาคแสง ปลัดจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ อรัณยกานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พันเอก ศรณณัฐ นวลมณี รอง ผอ.ส่วนอำนวยการ นบ.ยส.24 พ.ต.อ.ธนารัตน์ มีทองหลาม ผกก.สืบสวน ภ.จว. นครพนม พ.ต.อ.ณรงค์ เรืองมี ผกก.สภ.บ้านกลาง พ.ต.ท.เกียรติคุณ ดวงแก้ว สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม พ.ต.ท.หญิง วิภารัตน์ พิพิธภัทรานันท์ นวท.(สบ 3) พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึดยาบ้า จำนวน 250,000 เม็ด ยาแฮปปี้วอเตอร์ (ชนิดผง) 39 ซอง อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ ขนาด .38 กระสุน 5 นัด ผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมอายัติทรัพย์ คือ รถไถ รถเก๋ง รถจักรยานยนต์ มูลค่าเกือบ 2,000,000 บาท
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดชุดปฏิบัติการที่ 1 ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ชปส.1 ศอ.ปส.ภ.จว.นครพนม) มีข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนพื้นที่จังหวัดนครพนม มีความพยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครพนมเพื่อลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ จึงได้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ในช่วงวันที่ 1-15 ธ.ค. การดำเนินการตามโครงการแก้ไขปัญหาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อให้ประชาชนมีความสุข ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในชื่อโครงการ”นครพนมโมเดล” เมื่อวันที่ 7 ธ.ค 67 เวลาประมาณ 14.00 น. ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังพื้นที่จังหวัดนครพนม ในพื้นที่บ้านนาโดน ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม เมื่อทราบดังนั้นแล้ว ชปส.-ศอ.ปส.ก.จว.นครพนม นำโดย พ.ต.ท.จีรเดช อัตตพงษ์ รอง ผกก.ฯ หน.ชปส.ล ศอ.ปส.ถ.จว.นครพนม จึงได้แจ้งให้ พ.ต.อ.ธนารัตน์ มีทองหลาม ผกก.สืบสวม ภ.จว. นครพนม ทราบ พร้อมทั้งวางแผนเพื่อออกตรวจสอบและทำการจับกุมผักระทำความผิด ต่อมา เวลาประมาณ 15.30 น. แหล่งข่าวแจ้งว่า พบชายต้องสงสัย จำนวน 2 คน ยืนอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขงบ้านนาโดน.ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม มีพฤติการณ์น่าสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปส.1 ศอ.ปส.ภ.จว.นครพนม และ ถ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ร.น. 1 กก.10 บก.รน จึงได้เดินทางไปทำการตรวจสอบตามที่ใต้รับแจ้ง เมื่อเดินทางไปถึงหน้าหลังหนึ่ง ที่ ม.11 ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม พบชาย/หญิงไม่ทราบชื่อจำนวน 2 คน แบกสิ่งของบางอย่างเดินเข้าไปยังบริเวณบ้านหลังดังกล่าว โดยมีชาย/หญิง 2 คน นั่งอยู่บริเวณศาลาริมถนนหน้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำราจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอทำการตรวจสอบ ชายที่แบกสิ่งของได้แสดงอาการตกใจแล้วได้โยนสิ่งของดังกล่าวลงที่พื้นและพยายามต่อสู้เพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าทำการควบคุมตัวบุคคลทั้งสองไว้ได้ จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าบุคคล ทั้งสองเป็นราษฎร ประเทศเพื่อนบ้าน ได้ทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดของกลางมารอส่งมอบให้ผู้ค้ายาเสพติดฝั่งประเทศไทย และให้การว่าบุคคลที่นั่งอยู่บริเวณศาลาหน้าบ้าน ทราบชื่อภายหลังคือ นายจิตและนางรัตน์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว มีหน้าที่เป็นคนดูต้นทางให้กับตนเพื่ออำนวยความสะดวกในการลำเลียงยาเสพติด ซึ่งนายจิตและนางรัตน์จะได้รับค่าจ้างจากตนหลังจากงานสำเร็จแล้วจำนวน 2,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการควบคุมตัวนายจิตและนางรัตน์ไว้ได้
ผลการตรวจสอบสิ่งของ พบเป็นยาบ้า จำนวนประมาณ 250,000 เม็ด และ ยาแฮปปี้วอเตอร์ เป็นยาชนิดผงสี ขาว – ส้ม จำนวน 39 ของ จากการตรวจค้นเพิ่มเพิ่มเติมพบอาวุธปืนพกสั้น (ตัดแปลงสภาพ) ยี่ห้อชิกชาวเออร์ จำนวน 1 กระบอก บรรจุกระสุนขนาด .380 ในซองกระสุนซึ่งบรรจุอยู่ในตัวปืนกระบอกดังกล่าว จำนวน 5 นัด จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมด้วยของกลางทั้งหมด เข้ามายังที่ทำการกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรรจังหวัดนครพนม เพื่อทำการขยายผลการจับกุมและทำการบันทึกการจับกุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่าโดยกล่าวหาว่า “ร่วมจำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า อันก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือ ความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษ(เมทแอมเฟตามีน/โดยผิดกฎหมายและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายพะเบียน พาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสารณะโดยโดยได้รับอนุญาต”
โดยทำการตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการที่กล่าวมาแล้ว เพื่อทำการตรวจสอบถึงที่มาของทรัพย์สิน เพื่อการขยายผลต่อไป
