สุริยะ” “มนพร” ลงพื้นที่นครพนม เร่งเดินหน้า 2 โครงการใหญ่ รถไฟทางคู่ บ้านไผ่-นครพนม และก่อสร้างถนนเชื่อมสะพานมิตรภาพ 3 พร้อมประชุมร่วมภาครัฐ-เอกชน หาแนวทางเสริมศักยภาพเศรษฐกิจอีสาน-การค้าชายแดน
วันนี้ (6 มกราคม 2568) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ตรวจติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่ – นครพนม `และโครงการก่อสร้างถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน – ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 – ถนนเชื่อมทางหลวงหมายเลข 212 อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พร้อมทั้งประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร หัวหน้าส่วนราชการ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อหาแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในจังหวัดนครพนมและพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษให้มีความสมบูรณ์ เชื่อมโยงเส้นทางการค้าระหว่างประเทศไทย และ สปป.ลาว ผ่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน)
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม สกลนคร มุกดาหาร และภาคเอกชน ว่า จังหวัดนครพนมมีความโดดเด่นในฐานะจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภาคอีสาน เป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าและการค้าชายแดนเชื่อมต่อไปยัง สปป.ลาว เวียดนามและจีนตอนใต้ ผ่านระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้า รองรับการเติบโตของการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ นอกจากนี้ นครพนมยังมีสนามบินที่สามารถรองรับการขยายตัวของการเดินทางและโลจิสติกส์ในอนาคต ได้รับการกำหนดให้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ส่งเสริมให้มีการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิต การแปรรูปสินค้าเกษตร และการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่เป็นจุดแข็งของภาคอีสาน อีกทั้งยังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ ซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมและส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่
ข่าวน่าสนใจ:
- นรข.เขตนครพนม มอบผ้าห่ม สร้างความอบอุ่นให้ชาวบ้าน
- นครพนม รวมใจทำบุญตักบาตร ทุกวันพระ สืบทอดประเพณี ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
- "ผู้ว่าฯ นครพนมนำทีม! ปลูกผักสวนครัวสู่ความมั่นคงทางอาหาร แนวพระราชดำริ 'THE CONCEPTS OF CHANGE FOR 5 G'"
- **"ดร. ศุภพานี อ้อนชาวนครพนม! สานต่อโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน วอนขอโอกาส อย่าให้พ่ายเลือกตั้ง"**
นายสุริยะ เน้นย้ำว่า จังหวัดนครพนมไม่ได้เป็นเพียงประตูสู่การค้าชายแดน แต่ยังเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือในภาพรวม พร้อมยืนยันว่าจะเร่งรัดการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่ – นครพนม และโครงการก่อสร้างถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน – ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ให้แล้วเสร็จตามแผน ซึ่งเมื่อโครงการเหล่านี้แล้วเสร็จจะสร้างประโยชน์สำคัญต่อประชาชนในพื้นที่ ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในระยะยาว ทั้งการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและการค้า ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมจากภาคอีสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว เวียดนาม และจีน ดึงดูดนักลงทุนจากภาคเอกชนในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ส่งเสริมการเดินทางและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น สนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดนครพนมและพื้นที่ใกล้เคียง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ เพิ่มโอกาสการจ้างงานในภาคโลจิสติกส์ การค้าชายแดน และการพัฒนาพื้นที่จังหวัดนครพนมและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างยั่งยืน
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่ – นครพนม มีระยะทาง 354 กิโลเมตร แบ่งออกเป็นสองสัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 บ้านไผ่ – หนองพอก ระยะทาง 177.50 กิโลเมตร สัญญาที่ 2 หนองพอก – สะพานมิตรภาพ 3 ระยะทาง 177.28 กิโลเมตร รวมถึงการสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ (Overpass) และทางลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) เพื่อแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร โครงการประกอบด้วยการก่อสร้างสถานีรถไฟ 18 สถานี ป้ายหยุดรถไฟ 12 แห่ง และลานกองเก็บสินค้า (Container Yard) 3 แห่ง (สถานีร้อยเอ็ด สถานีสะพานมิตรภาพ 2 และสถานีสะพานมิตรภาพ 3) ลานบรรทุกตู้สินค้า 3 แห่ง (สถานีภูเหล็ก สถานีมหาสารคาม และสถานีโพนทอง) ซึ่งขณะนี้มีผลงานการก่อสร้างล่าช้ากว่าแผนงาน เนื่องจากหลายปัจจัย เช่น การเวนคืนที่ดิน การปรับแบบก่อสร้าง และสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่โครงการก็ยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการก่อสร้างสถานีรถไฟ สะพาน และคันทางรถไฟในหลายพื้นที่ จึงได้กำชับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดก่อสร้างให้แล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2571
ส่วนโครงการก่อสร้างถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน-ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 – ถนนเชื่อมทางหลวงหมายเลข 212 อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เกิดขึ้นจากความต้องการในการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายคมนาคมขนส่งและการเชื่อมต่อระหว่างสนามบินนครพนมกับสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 มีความยาวรวม 13 กิโลเมตร โดยมีการออกแบบให้รองรับการเดินทางของทั้งรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่และรถยนต์ส่วนบุคคล ประกอบด้วยสะพานข้ามทางแยก จุดเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 212 และพื้นที่พักรถบริเวณใกล้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว 520,187,894.23 บาท จากงบประมาณทั้งหมด 949,000,000 บาท หรือคิดเป็น 54.81% (ณ เดือนธันวาคม 2567) ซึ่งได้กำชับให้กรมทางหลวงชนบทควบคุมการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2569
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: