นครพนม – วันที่ 22 ม.ค.62 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดนครพนม อ.เมือง จ.นครพนม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ พร้อม นายก อบจ. จังหวัด คือ หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร นายเวียง วรเชษฐ์ อดีต ส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด และผู้สมัคร ส.ส.เขตนครพนม พร้อมทีม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน มาปราศรัยหาเสียงและแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.นครพนม ทั้ง 4 เขต เขต 1 นายธงทิพย์ชลิต แห่สถิตย์ (อดีตประธานสภา ส.อบจ.นครพนม) เขต 2 นางสาวณัฐพัธน์ ยงใจยุทธ เขต 3 นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ เขต 4 นายชูกัน กุลวงษา (อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย)
นายสุริยะฯ กล่าวว่า เมื่อ 23 ปีที่แล้ว ตนได้แต่งงานและไม่มีบุตร ไปหาหมอทำกิฟท์ก็ไม่สำเร็จ มีคนแนะนำให้มาไหว้พระธาตุพนม ขอบุตรกับแม่ชี แม่ชีบอกว่า เป็นเด็กหัวจุก ปรากฏว่า ไม่ต้องทำกิฟท์ บุตรก็ออกมา ลูกเกิดมา ใครมีพระแขวนคอจึงจะให้อุ้ม จึงขอพรพระธาตุพนมให้ชาวนครพนมมีความร่ำรวย มาครั้งที่ 2 ประมาณ 18 ปีที่แล้ว ในนามพรรคไทยรักไทย ชาวนครพนมมีปัญหาเรื่องความยากจน การเกษตรไม่ดี ถามปัญหาชาวบ้านก็มีปัญหาเหมือนเดิม เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ชาวบ้านเลือกพรรคเพื่อไทยมาตลอด บางจังหวัดเลือกพรรคประชาธิปัตย์ 2 พรรคนี้ทะเลาะกันตลอดเวลา กล่าวหาว่า ทักษิณ ขายหุ้นชินคอร์ปให้กับสิงคโปร์ ถูกหาว่าขายชาติ ถูกต่อต้าน จนยุบสภา มีการเลือกตั้งใหม่ ในครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ลงเลือกตั้ง ต่อมามีการขอนิรโทษกรรมให้นายทักษิณ ก็เกิดปัญหา มีการต่อสู้ระหว่างเสื้อแดง กับ เสื้อเหลือง พรรครัฐบาลปัจจุบัน จึงต้องทำการปฏิวัติอีก จึงขอร้องให้พี่น้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี มอบให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาดูแลเศรษฐกิจก็ดีเรื่อยมา ถ้าหากเลือกพลังประชารัฐเข้ามาอีก จะต้องแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจให้ได้ และจะต้องลดหนี้กองทุนหมู่บ้าน ให้สำเร็จ ให้เลื่อนการจ่ายไป 3 ปี ถ้าเข้ามาบริหารเศรษฐกิจดีขึ้น จะยกหนี้ให้หมด ตั้งกองทุนประชารัฐ ให้ชาวบ้านกู้ไปทำธุรกิจ พรรคการเมืองที่ดี ต้องมาดูแลประชาชน ภาคอีสานหนึ่งปี ปลูกข้าวได้ครั้งเดียว แค่ 3 เดือน อีก 9 เดือน ชาวบ้านต้องไปทำงานต่างจังหวัด
พรรคพลังประชารัฐ ได้ลงมาดูแลชาวบ้าน ถูกโจมตีว่าเอาเงินภาษีมาแจกชาวบ้านยากจน ถ้าสามารถแก้ไขความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชนต้องแก้ไขความยากจน ให้กับพี่น้องชาวอีสานก่อน ทำให้ชาวบ้านกระเป๋าตุง
และจะต้องมีโครงการ โรงงานอุตสาหกรรมจะต้องมาตั้งที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะนครพนม เป็นแห่งแรก ชาวบ้านจะมาทำงานในพื้นที่ ถึงแม้จะมีรายได้น้อยกว่า กทม. แต่รายจ่ายก็ลดลง เป็นการแก้ปัญหาให้ชาวอีสาน มีความสุขอยู่กับครอบครัว จึงขอให้ท่านเลือก ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 4 เขตเลือกตั้งเข้าสภาเป็นปากเสียงของชาวนครพนม ตนได้สอบถามพี่น้องชาวบ้าน เรื่องบัตรประชารัฐ ที่รัฐบาลออกให้ชาวบ้านพอใจมากกับสวัสดิการนี้ และถ้าได้เป็นรัฐบาลก็จะดำเนินงานต่อไป ตนทราบข่าวจากสื่อมวลชน ว่า จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.62 แล้วกล่าวหาว่า พรรคพลังประชารัฐ รู้กันกับ กกต. ทำงานร่วมกัน ขอปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ต่างคนต่างก็ปฏิบัติหน้าที่
